รฟท.เดินหน้าแก้ปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่รถไฟ ย้ำไม่ประนีประนอม

รฟท.เดินหน้าแก้ปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่รถไฟ ย้ำไม่ประนีประนอม

รฟท.เดินหน้าแก้ปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่รถไฟ ย้ำไม่ประนีประนอม สั่งตั้งคณะทำงาน 1 ชุด หลังกระทบความปลอดภัยเดินรถ-เกิดปัญหาน้ำท่วมตามมา

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.63  นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  เปิดเผยว่า  จากการลงพื้นที่สำรวจปัญหาการบุกรุกที่ดินของการรถไฟในพื้นที่สำคัญ เช่น บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตรลดา และได้สั่งตั้งคณะทำงานขึ้น 1 ชุด และ วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินการรถไฟฯ ให้เกิดประโยชน์มูลค่าทรัพย์สูงสุด ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรถไฟ และชุมชนโดยรอบ

ขณะเดียวกันวางกรอบการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินรถไฟในลักษณะเชิงรุก โดยจะไม่ประนีประนอมกับการบุกรุกพื้นที่ที่เข้าข่ายในลักษณะสำคัญ 3 เรื่อง ประกอบด้วย  

1.การบุกรุกที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ ทั้งตัวรถที่เป็นทรัพย์สินของการรถไฟฯ ประชาชนผู้ใช้บริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ตัวอย่างเช่น ที่สถานีคลองตัน กทม.ซึ่งการบุกรุกล้ำพื้นที่เขตทาง สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเกินรถ

2 .กรณีการบุกรุกที่มีการเข้าไปใช้พื้นที่ของรถไฟ และอาจกลายเป็นแหล่งอาชญากรรมพื้นที่มั่วสุมการพนัน ซึ่งส่วนนี้ต้องจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

3 .การบุกรุกพื้นที่ที่ทำให้เกิดสิ่งปลูกสร้างในลักษณะขวางทางน้ำและที่ผ่านมาทั้งพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดมีหลายพื้นที่ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขัง

ทั้งนี้ ยังมีประเด็นปัญหาการบุกรุกในลักษณะย่านการค้าที่เป็นตลาด ซึ่งการรถไฟมีนโยบายที่จะเข้าไปจัดระเบียบ ทำการเจรจากับผู้ค้า ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยแก้ปัญหามาเฟียคุมพื้นที่ และเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ค้า มีการเก็บผลประโยชน์หลายทอด ซึ่งเมื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จแล้ว การรถไฟจะเข้าไปดูแลผู้ค้าโดยตรง ในส่วนนี้ยืนยันว่าผู้ค้าที่เคยต้องจ่ายค่าตอบแทน ให้แก่กลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ จะมีค่าใช้จ่ายในการใช้พื้นที่ประกอบอาชีพลดลงอย่างแน่นอน ส่วนกรณีพื้นที่ตลาดร่มหุบ หรือตลาดแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม พบว่า จุดดังกล่าวไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่สถานีที่สิ้นสุดการเดินรถแล้ว อย่างไรก็ตามในเร็วๆนี้ การรถไฟฯ จะมีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อวางกรอบดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตรลดา (สามเหลี่ยม) ได้เกิดปัญหาผู้บุกรุกเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างยาวนาน จนปัจจุบันได้กลายเป็นชุมชนเสื่อมโทรม เกิดปัญหาอาชญากรรม ปัญหาทางด้านสาธารณสุข สุขอนามัย จนกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานการรถไฟฯ ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาภายนอก สำหรับข้อมูลที่ดินทรัพย์สิน ของการรถไฟฯ ทั่วประเทศ มีจำนวน 234,976 ไร่ แยกเป็น 5 กลุ่มได้แก่ 

  1. พื้นที่เขตทางร้อยละ 80.68 ของที่ดินโดยรวม
  2. พื้นที่อื่นๆ ที่ไม่ใช้เพื่อการเดินรถ มีสัดส่วนร้อยละ15.45
  3. พื้นที่ย่านสถานี (วางราง) คิดเป็นร้อยละ 2.27
  4. พื้นที่บ้านพัก/ที่ทำการ ร้อยละ 1.6
  5. เป็นพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ทั่วทั้งประเทศประมาณ 4 หมื่นกว่าไร่ ได้ว่าจ้างเอกชนลงสำรวจแผนที่ภูมิศาสตร์โดยละเอียด รวมทั้งดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลดิจิทัล เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การทำฐานข้อมูลในระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการบริหารทรัพย์สิน ของ ร.ฟ.ท. ทั่วประเทศกว่า 2 แสนไร่นั้น บริษัทฯ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ส่วนงานหลัก คือ

ส่วนงานที่ 1 งานจัดทำฐานข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์

ส่วนงานที่ 2 งานจัดทำฐานข้อมูล ผู้เช่า ผู้ใช้สิทธิ การบุกรุก

ส่วนงานที่ 3 งานพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารทรัพย์สินและสัญญา โดยบูรณาการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครบถ้วนสมบูรณ์ ตามรายละเอียดของแต่ละส่วนงาน

โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟ เพื่อจัดเก็บระบบฐานข้อมูลดิจิทัลที่ครบถ้วน ถูกต้อง และทันสมัย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การบริหารทรัพย์สินของการรถไฟฯ ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุด