‘ราชกิจจานุเบกษา’ ประกาศ คลาย 'ล็อคดาวน์' ผ่อนปรนเฟส 3 เริ่ม 1 มิ.ย.นี้

‘ราชกิจจานุเบกษา’ ประกาศ คลาย 'ล็อคดาวน์' ผ่อนปรนเฟส 3 เริ่ม 1 มิ.ย.นี้

“ราชกิจจานุเบกษา” ประกาศ ผ่อนคลาย “ล็อคดาวน์” ผ่อนปรนเฟส 3 อย่างเป็นทางการ ลดเวลาเคอร์ฟิว เปิดสถานที่เพิ่ม เดินทางข้ามจังหวัดได้ เริ่ม 1 มิ.ย.นี้

วันที่ 29 พ.ค. 63 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 9) มีความยาว 5 หน้า ลงนามโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดยเนื้อหาสาระสำคัญเป็นไปตามมติของศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. ที่มีมติในช่วงเช้าวันศุกร์ ในการคลายล็อคดาวน์ระยะที่ 3 ที่น่าสนใจ อาทิ 

ข้อ 1 การห้ามออกนอกเคหสถานห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง เวลา 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และให้ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถาน ตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 ยังคงใช้บังคับต่อไป 

ข้อกำหนดระบุรายละเอียดด้วยว่า "ให้ยานพาหนะผู้โดยสารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะ ที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้า ระหว่างจังหวัด ที่เริ่มออกเดินทางจากจังหวัดต้นทาง ก่อนเวลา 23.00น. นาฬิกา และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา 03.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานได้"

ข้อ 2 การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อม รองรับการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2563 ในระยะแรกนี้ให้ทยอยผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อจัดการศึกษา การอบรม การประชุมหรือเพื่อประโยชน์ในการสอบ หรือการคัดเลือกบุคคล ดังต่อไปนี้

(1) การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนหรือการฝึกอบรมของโรงเรียนนอกระบบ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเฉพาะประเภทวิชาชีพ และประเภทศิลปะและกีฬา (เฉพาะประเภท กีฬาที่ผ่อนคลายให้ทํากิจกรรมได้) โดยพิจารณาถึงจํานวนนักเรียนต่อห้องเรียน ความพร้อมและ ความสามารถในการจัดรูปแบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น การจัดสถานที่และระบบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคเป็นสําคัญ

(2) การใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อการประชุม การจัดการสอบ การสอบคัดเลือก การฝึกอบรมระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน หรือดําเนินการอื่นใดในลักษณะทํานองเดียวกัน ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตาม (1) หรือ (2) ต้องปฏิบัติ ตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนด การจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ รวมทั้งคําแนะนําของทางราชการอย่างเคร่งครัด

ข้อ 3 การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ใน 2 กลุ่มกิจกรร 1.กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต 2.กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ (รายละเอียดตามเอกสาร)

ข้อ 4 การดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ในข้อ 2 หรือข้อ 3 มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันโรค รวมทั้งดําเนินการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ตามคําแนะนํา เงื่อนไข และเงื่อนเวลา ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตามที่ทางราชการกําหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจเข้าตรวจสอบการใช้อาคารสถานที่ตามข้อ 2 และการดําเนินการ ของเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ตามข้อ 3 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้ง การจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ที่ทางราชการกําหนด หากพบการกระทําที่อาจมีความเสี่ยง ต่อการแพร่ระบาดของโรค พนักงานเจ้าหน้าที่อาจให้คําแนะนํา ตักเตือน ห้ามปราม และมีอํานาจ กําหนดช่วงระยะเวลาเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ดําเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ของโรค รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอํานาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีคําสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่รับผิดชอบไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้

ในกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคําสั่งปิดสถานที่ไว้ เป็นการชั่วคราวตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เมื่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ได้ดําเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกําหนดและจัดระเบียบ และระบบต่าง ๆ แล้ว ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี มีอํานาจสั่งให้เปิดดําเนินการในสถานที่ดังกล่าวได้

ข้อ 5 การผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดตามที่รัฐบาลมีคำแนะนำให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งจากการประเมินของฝ่ายที่เกี่ยวข้องพบว่ามาตรการดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยหนึ่งส่งผลให้สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนกลับมีสภาพใกล้เคียงกับวิถีชีวิตตามปกติอีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจึงเห็นสมควรผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดโดยประชาชนผู้เดินทางซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคการจัดระบบและระเบียบต่างๆที่ทางราชการกำหนดด้วย

และ ข้อ 6 ในกรณีมีปัญหาว่าสถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้หรือไม่ ให้หารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เป็นประธาน

159077013924

159077014383

159077047191

159077048765

159077049452