เดินเครื่องสรรหา กสทช.ใหม่ 'ฐากร' ตัวเต็งนั่งบอร์ด

เดินเครื่องสรรหา กสทช.ใหม่ 'ฐากร' ตัวเต็งนั่งบอร์ด

เร่งสรรหาบอร์ดกสทช.ชุดใหม่ หลังดีอีเอสทำเรื่องเสนอให้ดำเนินการตามกฎหมายเก่า มั่นใจก.ย.ได้ยลโฉมทีมบริหารชุดใหม่ ลือ “ฐากร” แต่งตัวรอรับเก้าอี้บอร์ด

ร่ายภารกิจเพื่อประชาชน

สำหรับภารกิจหลักของกสทช.ที่ผ่านมานั้น ได้สร้างสรรค์ประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมซึ่งรวมถึงบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง สัญญาณไวไฟ ศูนย์บริการอินเตอร์เน็ตฟรีพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นเวลา 5 ปี และมีการจัดระเบียบสายสื่อสารและนำสายสื่อสารลงดิน โดยปัจจุบันได้มีการจัดระเบียบสายสื่อสารในเขต กทม. และปริมณฑล จำนวน 120 กม. และในต่างจังหวัดจำนวน 74 จังหวัด จำนวน 709 กม. สำหรับการนำสายลงดินดำเนินการไปแล้ว 160 กม. ในเขตพื้นที่ กทม. และในต่างจังหวัด น่าน พะเยา ลำปาง นครพนม และเชียงใหม่ จำนวน 80 กม. นอกจากนี้ ปัจจุบันกำลังพยายามขับเคลื่อนการจัดระเบียบสายสื่อสารและนำสายสื่อสารลงใต้ดินผ่านกลไกหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย

เขา ระบุอีกว่า ยังมีการลงทะเบียนซิมการ์ดโดยมียอดผู้ลงทะเบียนกว่า 74 ล้านเลขหมายในเวลาเพียง 6 เดือนผ่านการสื่อสารที่ชัดเจนแก่ประชาชน การลงทะเบียนซิมการ์ดเป็นการพิสูจน์ตัวตนทางหนึ่ง จึงช่วยป้องกันผู้บริโภคจากมิจฉาชีพเพราะสามารถยืนยันตัวตนได้หากมีปัญหาในการใช้งาน ที่สำคัญ เป็นการวางรากฐานสำหรับการบูรณาการฐานข้อมูลผู้ใช้งานระหว่างภาคโทรคมนาคมและภาคธนาคาร

การดำเนิน 4 โครงการที่สำคัญในช่วงเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาล และสถานพยาบาลของรัฐทั่วประเทศจากเงินงบประมาณของสำนักงาน กทสช. และเงินกองทุนกสทช.รวม 1,294 ล้านบาท โครงการเพิ่มเน็ต 10 GB ให้ประชาชนใช้ฟรี โครงการเพิ่มเน็ตบ้าน 100 Mbps และโครงการโทรฟรี 100 นาที

“โลกทุกวันนี้มุ่งหน้าเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหมายถึงบทบาทของกสทช. ที่จะต้องมีมากขึ้นทั้งเวทีในประเทศไทยและนานาชาติ ดังนั้น ก้าวที่ กสทช. จะเดินต่อไปจะมีส่วนสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของไทยในอนาคต ”

วาง4แผนหลักการทำงาน

นายฐากร เสริมว่า ตนขอเสนอแนวทางใหญ่ๆ 4 ข้อ 1.ในระยะยาว กสทช. ต้องมองไปข้างหน้าและหาให้ได้ว่าอะไร คือปัจจัยที่จะขับเคลื่อนโลกโทรคมนาคมในอนาคต และดำเนินนโยบายตามแนวทางนั้น โดยต้องสอดคล้องกับพันธกิจของ กสทช. และยึดโยงกับประโยชน์สาธารณะ 

2.จะต้องเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนในวงกว้างต่อ กสทช. เพราะความเชื่อมั่นจากประชาชนจะเป็นทรัพย์อันสำคัญที่จะทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพและเกิดผลดี ความเชื่อมั่นได้มาจากการแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตในผลประโยชน์ของประชาชน ผ่านการดำเนินนโยบายที่อยู่บนหลักของเหตุผล โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ 3.จะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกับภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ นักวิชาการ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม และ4.ต้องมุ่งที่จะพัฒนาองค์กรให้กลายเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศและภูมิภาคซึ่งมาจากความรู้ความสามารถ การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และการยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ