3 วิธี วางแผนจ่ายหนี้ 'กยศ.' ให้หมดไว ไม่เสียประวัติ
เปิด 3 วิธีวางแผนชำระหนี้ "กยศ." ที่มีส่วนช่วยให้สามารถปิด "หนี้ กยศ." ได้เร็ว เสียดอกเบี้ยน้อย และไม่กระทบกับแผนการเงินอื่นๆ
เงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ "กยศ." เป็นอีกหนึ่งภาระหนี้สินในระยะยาวของผู้ที่ขอกู้ยืมเพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับชั้นต่างๆ โดยทั่วไป กยศ. จะกำหนดให้ลูกหนี้ ชำระคืนเงินทั้งหมดภายในระยะเวลา 15 ปี ภายใต้อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี โดยแบ่งชำระเป็นรายปี หรือหักจากเงินเดือนเป็นรายเดือน แล้วแต่กรณี
ไม่ว่าจะถูกกำหนดให้ชำระหนี้แบบรายปีหรือรายเดือน สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการจ่ายหนี้ กยศ. คือ "การวางแผน" และ "การบริหาร" การเงินที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้สามารถจัดการหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับคนที่วางแผนได้ดี จะสามารถชำระหนี้ได้เร็วกว่า เสียดอกเบี้ยน้อยกว่า และไม่กระทบต่อการวางแผนการเงินอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะทำให้สุขภาพทางการเงินแข็งแรงในระยะยาว
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" สกัดข้อมูลจากเว็บไซต์ Studentloan พร้อมรวบรวม 3 วิธีเตรียมความพร้อมชำระหนี้ กยศ. อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- อย่าลืม! จ่ายหนี้ 'กยศ.' 5 ก.ค. วันสุดท้าย เช็คช่องทางชำระเงินที่นี่
- 'กยศ.' เปิดบริการกู้ยืมออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น 'กยศ. Connect' เช็ควิธีใช้งานที่นี่!
- เปิดเงื่อนไข! ลูกหนี้ 'กยศ.' ถ้าอยากขอผ่อนผันหนี้กยศ. ต้องทำอย่างไร?
- 'กยศ.' ผ่อนผันชําระหนี้ สู้ 'โควิด-19'
- วิธีที่ 1 ทำความเข้าใจเงื่อนไขการชำระหนี้ กยศ.
แม้ กยศ. จะมีเอกสารแจ้งยอดหนี้ที่ต้องชำระในแต่ละรอบปีที่สามารถดูและจ่ายตามได้อย่างง่ายดาย แต่ในฐานะ "ลูกหนี้" ควรจะทำความเข้าใจกับการคิดดอกเบี้ย และเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจก่อน โดยเฉพาะระยะเวลาในการชำระ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตในมิติต่างๆ หากไม่ทำความเข้าใจ หรือละเลย ขาดการติดต่อสื่อสาร จนนำไปสู่การ "ผิดนัดชำระ" ที่อาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือยึดทรัพย์ได้
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการชำระหนี้ กยศ. คืน มีดังนี้
- กยศ. มีระยะปลอดหนี้ 2 ปี หลังจากจบการศึกษา หมายความว่าระยะ 2 ปีนี้จะไม่ต้องชำระหนี้ใดๆ คืนเลย
- กยศ. จะแจ้งยอดการชำระหนี้ครั้งแรกในปีที่ 3 โดยมีกำหนดให้ชำระคืนไม่เกินวันที่ 5 ก.ค. ของทุกปี
- กยศ. ไม่ใช่เงินให้เปล่า
- กยศ. จะมีการคิดดอกเบี้ย 1% ต่อปี
- กยศ. มีเบี้ยปรับในกรณีไม่เกิน 1 ปี คิดเบี้ยปรับ 12% ของเงินต้นที่ค้างชำระ หากเกิน 1 ปี คิดเบี้ยปรับ 18% ของเงินต้นที่ค้างชำระ
- จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ในกรณีที่มีการผิดนัดชำระ และค้างชำระหนี้เกินกว่า 4 ปี 5 งวด (1,460 วันขึ้นไป) หรือ มีหนี้ค้างชำระ แต่หมดระยะเวลาที่กำหนดแแล้ว หรือกรณีที่ผู้กู้ยืม กยศ. กลุ่มไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องคดี (มีหนี้ค้างชำระ) เป็นต้น
- วิธีที่ 2 วางแผนสำหรับจ่ายหนี้ กยศ.โดยเฉพาะ
กุญแจสำคัญที่จะทำให้สามารถชำระหนี้ ได้ตรงตามเวลาครบตามจำนวนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง คือการวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้า และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยห้วงเวลาสำคัญที่จะช่วยให้สามารถเก็บเงินเตรียมไว้สำหรับจ่าย กยศ. คือ "ระยะปลอดหนี้" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายอาจใช้เงินไปกับการใช้รางวัลตัวเอง หรือละเลยการเตรียมจ่ายหนี้จนลืมไปว่ายังมีหนี้รออยู่อีกไม่ไกล
กยศ. แนะนำให้ผู้กู้ ให้ความสำคัญกับการเก็บเงินสำรองไว้จ่ายหนี้ กยศ. โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถเริ่มต้นง่ายๆ เป็นการเก็บเงินรายวัน ทีละเล็กละน้อย ตามระยะเวลา เช่นตัวอย่างการสะสมเงินเพื่อชำระหนี้ยอด 100,000 บาท ดังนี้
สำหรับคนที่ไม่อยากเก็บเหรียญให้ยุ่งยาก ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณในการชำระหนี้เป็นก้อนในแต่ละปีได้ นั่นคือ การหักเงินจากบัญชีเงินเดือนหรือรายได้ เก็บไว้ทุกๆ เดือนก่อนที่จะใช้จ่ายในส่วนอื่น โดยมีกฎเหล็กว่าเงินก้อนนี้จะใช้ในการจ่ายหนี้ กยศ. เท่านั้น
โดยการใช้วิธีคำนวณเงินที่ควรเก็บง่ายๆ ด้วยการนำยอดชำระหนี้ในแต่ละปีมาหาร 12 (เดือน) คุณก็จะสามารถวางแผนได้ว่าในแต่ละเดือนจะต้องหักเงินเดือนหรือรายได้ไว้เดือนละเท่าไหร่ ตัวอย่าง ยอดชำระหนี้ 4,384 บาท หาร 12 เดือน นั่นก็เท่ากับว่าในแต่ละเดือนต้องเก็บเงินไว้สำหรับจ่ายชำระหนี้ 366 บาท เป็นต้น
เงินเดือน/รายได้ - เงินออม - เงินจ่ายหนี้ กยศ. = เงินใช้จ่าย
- วิธีที่ 3 หาทางช่วยลดหนี้
สำหรับคนที่เพิ่งเรียนจบ และเริ่มทำงานใหม่ๆ ที่เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเองจึงสามารถใช้เวลาปลอดหนี้นี้ในการทยอยสะสมเงินสำหรับจ่ายหนี้ กยศ. โดยเฉพาะเมื่อวันครบกำหนดครั้งแรกมาถึง
สาเหตุที่ต้องรีบเตรียมเงินไว้ชำระในงวดแรกของหนี้ กยศ. เนื่องจาก งวดแรกจะเป็นการชำระหนี้แบบปลอดดอกเบี้ยคือไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หรือประโยชน์อื่นใดเลยในงวดนี้เลย เพราะฉะนั้น เงินที่ถูกจ่ายไปทั้งหมดในงวดนี้จะถูกคิดเป็นเงินต้น และหักออกจากยอดหนี้ทั้งหมด
หมายความว่า ถ้าหากผู้กู้สามารถชำระเงินในงวดแรกของการผ่อนชำระได้มากเท่าไร ก็ยิ่งช่วยลดภาระยอดหนี้ทั้งหมดได้มากเท่านั้น การเตรียมการเก็บเงินก้อนให้ได้ในช่วงเวลาปลอดหนี้จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ผู้กู้มียอดหนี้ที่ลดลงรวดเร็วกว่าเดิม
แต่สำหรับคนที่เตรียมตัวไม่ทัน หรือชำระเงินในงวดแรกตามที่ กยศ. คำนวณมาให้ตามปกติก็ยังมีโอกาสที่จะรับสิทธิ์ประโยชน์ "ลดเงินต้นทันที 3%" (ไม่รวมดอกเบี้ย)" ณ วันที่ปิดบัญชีหนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย /ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เท่านั้น
- สอบถามข้อมูล กยศ. หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม
- Call Center 0 2016 4888 ให้บริการข้อมูล ชี้แจง ตอบปัญหา ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 20.00 น.
- ส่งข้อมูลสอบถาม แสดงความคิดเห็น ร้องเรียน และข้อเสนอแนะต่างๆ ได้ที่อีเมล [email protected] หรือ Facebook: @studentloan.th
- ศูนย์กลางในการให้ข้อมูลข่าวสาร www.studentloan.or.th