ฟื้นตัว แต่ผันผวนตามไปแนวโน้มเศรษฐกิจและตัวเลขการระบาด
หุ้นสหรัฐฯ แกว่งเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อก่อนฟื้นจากคาดหวังการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน
หุ้นสหรัฐฯ ปรับลง จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ก่อนฟื้นตัวจากการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความเห็นของเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ ที่ประเมินอัตราการว่างงานสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงสู่ระดับ 7-8% ภายในปีนี้ เราคาดตลาดจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวนไปตามข้อมูลทั้งเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด ซึ่งปัจจัยสำคัญที่เราให้นักลงทุนโฟกัส คือ “ตัวเลขผู้เสียชีวิต” ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากจุดสูงสุด 2.5 พันราย/วัน เหลือต่ำกว่า 300 ราย/วัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดมองข้ามการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ เป็น 994 และ 890 ราย ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ต้องกลับมาจับตาอัตราการเสียชีวิต ซึ่งหากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการออกมาตรการควบคุมโรค ซึ่งเสี่ยงกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หุ้นจีนซื้อขายใน valuation ที่ถูกเทียบกับหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวโดดเด่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ด้วยแนวโน้มที่ MSCI มีโอกาสเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันหุ้นจีน (Shanghai) มี market cap เพียง 22% ของหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ซึ่งหากเทียบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขนาดหุ้นจีนจะอยู่ที่ 15-35% ของหุ้นสหรัฐฯ ในเชิงกลยุทธ์เรามองหุ้นจีนมีความน่าสนใจเป็นตัวเลือกในการกระจายการลงทุน แม้จะยังมีประเด็นความเสี่ยงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ ในระยะยาวก็ตาม
Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ ทองคำที่ขึ้นพร้อมหุ้น ทำให้เรายังเน้นลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ CPALL, ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP // กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ควรพิจารณาแบ่งทำกำไร AJ, PTL หลังขึ้นแรง
ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวแบบมีแรงทำกำไรสลับ โดยมีจิตวิทยาเก็งกำไรเป็นบวก คงมุมมอง ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง เก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร TU*, WHAUP*, BCH* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)
แนวรับ 1,359 จุด / แนวต้าน : 1,371-1,387 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
ประเด็นการลงทุน
ครม.อนุมัติแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 1 วงเงินราว 1 แสนล้านบาท –โดยเน้นเรื่องการเกษตร การสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน และให้ความสำคัญกับการดูแลแหล่งน้ำ
EC ประเมินเศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวแรงเป็นประวัติการณ์ในปี 2020 – คณะกรรมาธิการยุโรปประเมินเศรษฐกิจยูโรโซนอาจหดตัวแรงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 8.7% ในปี 2020 ก่อนกลับมาขยายตัว 6.1% ในปี 2021 รับผลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
เงินไหลเข้ากอง Gold ETFs สูงสุดเป็นประวัติการณ์ –World Gold Council เปิดเผยตัวเลขเงินทุนไหลเข้ามายัง gold-backed exchange-traded funds (ETFs) ที่ 39.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. สูงกว่าจำนวนในปีที่แล้วทั้งปี ส่งผลให้ยอดคงค้างสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
STGT – ประชุมนักวิเคราะห์ข้อมูลเชิงบวก คาดตลาดจะเพิ่มการประเมินกำไรจาก 3.5 เป็นราว 4 พันล้านบาท ซึ่งหากอิง PER 23-30 เท่า กรอบการซื้อขาย จะขยับขึ้นจาก 56-73 บาท เป็น 64-84 บาท ได้ (กรอบเพื่อการเก็งกำไร และควรกำหนด stop loss ทุกครั้ง)
SSI – ซื้อขายวันสุดท้าย 10 ก.ค. ก่อนเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ประเด็นติดตาม: 9 ก.ค. – US Initial Jobless Claims/ 24 ก.ค. – ครม. พิจารณามาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว/ 9 ส.ค. – เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)