'กลุ่มอนุรักษ์' โวยนักดำน้ำเกาะราชา หวั่นเหยียบปะการังเละ!

'กลุ่มอนุรักษ์' โวยนักดำน้ำเกาะราชา หวั่นเหยียบปะการังเละ!

"กลุ่มอนุรักษ์" โวยกลุ่มนักดำน้ำถ่ายภาพใกล้ชิดซากเรือปะการัง เกาะราชา หวั่นสร้างความเสียหาย

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Khanchit Klingklip” ได้โพสต์ภาพใต้น้ำ ที่มีนักดำน้ำหลายคนกำลังจับกลุ่มถ่ายภาพกับซากเรือปะการังเทียม พร้อมข้อความระบุว่า “ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราหลายคนและหลายๆ ภาคส่วนร่วมกันอนุรักษ์ปะการัง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างงานสร้างรายได้มหาศาลแก่ประเทศ แก่คนในท้องถิ่นได้มีงานทำกัน จากการท่องเที่ยว และกว่าที่ปะการังจะเติบโตได้ใช้ระยะเวลานานหลายปี มีคนมากมายช่วยกันคอยดูแลและรักษาไว้ ในช่วงวิกฤติโควิด ปะการังได้พักฟื้นเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีการเปิดให้ดำเนินการกิจกรรมได้ กลับมีการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

อย่างที่ภาพมันฟ้องออกมาเช่นนี้ มันสมควรแล้วหรือ นี้คงไม่ใช่การท่องเที่ยว แต่กำลังเป็นการทำร้ายและทำลายสิ่งสวยงามของปะการัง ที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติในทะเล หยุดกิจกรรมที่ส่งผลการทำร้ายและทำลายปะการังเสียเถอะ หยุด เข้าใกล้จนเกินไป ไม่ควรที่จะสัมผัส ไม่ควรจะนั่งทับเหมือนเช่นในภาพ คุณกล้าโพสต์ เรากล้าแชร์ กล้าที่จะเผยแพร่ภาพที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นกับปะการัง ปล.ลบไปก็เท่านั้น ก๊อปไว้หมดแล้ว แชร์ให้โลกรู้ว่ายังมีทริปแบบนี้อยู่อีกเหรอ”

159463805232

ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยัง ผู้โพสต์ คือ นายครรชิต คลิ้งขลิบ สมาชิกชมรม HEALTHY REEF'S และเป็น เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณ วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่มีการนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นไกด์ดำน้ำของบริษัททัวร์ ในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยโพสต์ลักษณะเชิญชวนให้ไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนจะมีการลบโพสต์ดังกล่าวไปแล้ว แต่บังเอิญตนได้บันทึกโพสต์ดังกล่าวไว้ได้

159463816834

"จากในภาพพบว่า เป็นบริเวณด้านหน้าอ่าวทือ ของเกาะราชา ซึ่งจุดดังกล่าวในอดีตเมื่อประมาณปี 2552 ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต (ชื่อเดิม) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเกาะราชาใหญ่ ได้มีการจมเรือ “สตาร์ลูบี้” เพื่อทำปะการังเทียม และให้เป็นจุดดำน้ำท่องเที่ยวทางทะเล ผ่านมากว่า 11 ปี สภาพปัจจุบันนับว่าเป็นจุดที่ปะการังกลับมาอุดมสมบูรณ์จุดหนึ่ง มีสัตว์น้ำนานาชนิดเข้าไปอาศัย และหลังจากหยุดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงสถานการณ์โควิดยิ่งทำให้มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่กลุ่มคนดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นกรุ๊ปทัวร์พากลุ่มนักดำน้ำชาวไทยเข้าไปเหยียบย่ำ ทั้งที่มีระเบียบร่วมกันไว้ว่า สามรถเข้าใกล้ในระยะที่สมควร ไม่เข้าใกล้เกินไป และไม่ควรสัมผัส เพราะปะการังจะได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ รวมถึงฝากไปถึงผู้ประกอบการ นักดำน้ำ เคารพกฎกติกา และพึงระวังไม่ทำความเสียหายต่อทรัพยากร ซึ่งเป็นดั่งสมบัติของคนทั้งชาติ" นายครรชิตกล่าว

159463821666

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว ทำให้เฟซบุ๊ก ชื่อ “จิตอาสา Go Eco Phuket” ซึ่งเป็นเครือข่ายนักอนุรักษ์ทางทะเลฯ ได้ออกมาโพสต์ ประณามการกระทำดังกล่าวแล้วด้วยเช่นกัน และล่าสุดทาง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา) หรือ สทช.6 ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ จ.ภูเก็ต ด้วยได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

159463803875