จัดทัพ 'ทีมเศรษฐกิจ' ชุดใหม่ ปิดฉาก 6 ปี 'สมคิด-4กุมาร' แถลงออกจาก ครม. วันนี้
นายกฯจัดทัพ “ทีมเศรษฐกิจ” ชุดใหม่ลงตัว วาง “ปรีดี” นั่ง รมว.คลัง “ทศพร” รองนายกฯ คุมงบเงินกู้โควิด “ไพรินทร์” เต็ง รมว.พลังงาน ปิดฉาก 6 ปีทีมเศรษฐกิจ “สมคิด-4 กุมาร” แถลงออกจากรัฐมนตรีวันนี้
เผยชนวนแตกหัก ถูกรัฐมนตรี พปชร. ขวางโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน พ่วง ขรก.เกียร์ว่าง
หลังจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำรัฐบาล ได้ปรับโครงสร้างพรรคใหม่ โดยปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค โดยตัดอดีต กก.บห.กลุ่ม 4 กุมาร ออกจากโครงสร้างพรรคทั้งหมด ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
กระทั่งกลุ่ม 4 กุมาร ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. จนส่งผลให้เกิดแรงกดดันไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปิดทางให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ได้เข้ามาบริหาร รวมถึงขับเคลื่อนงบประมาณเกี่ยวกับการเยียวยาฟื้นฟู ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (15 ก.ค.) โดยยอมรับว่า ตนรวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ นายสุวิทย์ และนายกอบศักดิ์ เตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เป็นความจริง โดยจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 16 ก.ค. ผ่านนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 08.00 น. และอาจจะไปร่วมแถลงข่าวความชัดเจนเรื่องนี้ พร้อมกับนายสมคิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 'สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์' ยื่นลาออก รมต. แล้ว
- จัดทัพ 'ทีมเศรษฐกิจ' ชุดใหม่ ปิดฉาก 6 ปี 'สมคิด-4กุมาร' แถลงออกจาก ครม.
- '4 กุมาร' เปิดใจ ลาออก รมต. ยันจากกันด้วยดี ปัดถูกบีบให้ออก
- 'วิษณุ' ชี้ 'กลุ่ม 4 กุมาร' แถลงลาออก รมต. มีผลทันที
- เปิดบทสนทนาประยุทธ์-สมคิด 'รู้สึกแย่ ไม่รู้จะพูดต่อหน้าอย่างไร'
- เปิดโผทีมศก.ชุดใหม่ 'ปรีดี' เต็งคลัง-'ไพรินทร์' เสียบพลังงาน
- 'ขอโทษ' ใช้บ่อยจนไม่ขลัง 'แต้มบุญ' การเมืองใกล้หมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 16 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการที่จ.ศรีสะเกษ โดยจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลา 07.00 น. และจะเดินทางกลับถึง กทม. ในเวลา 19.00 น.
“ประยุทธ์”ปัดตอบ4กุมารยื่นใบลาออกรมต.
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายกฯ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ในช่วงเช้า ได้ไปร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (BCG โมเดล) โดยภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนามดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งข้อความทางไลน์ไปหานายสมคิด ก่อนที่ทั้งสองคนจะโทรศัพท์สนทนา ทำความเข้าใจกัน โดยนายกฯได้ให้เหตุผลถึงความจำเป็นทางการเมือง ในการปรับ ครม. ซึ่งนายสมคิด ก็ได้ยอมรับด้วยความเข้าใจ
ต่อมาในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง จ.ระยอง เพื่อให้กำลังใจประชาชน ภายหลังเกิดกรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กรณีกลุ่ม 4 กุมารตัดสินใจลาออกจากรัฐมนตรี โดยระบุสั้นๆ ว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เห็น” พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “เขายื่นกับคุณเหรอ”
“สมคิด”ยื่นใบลาออกคนแรก
ขณะที่วันเดียวกันนี้ นายสมคิด มีภารกิจที่ จ.ชุมพร โดยเดินทางไปมอบนโยบายการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการตรวจเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านด้วยการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดชุมพร ณ กองทุนหมู่บ้านบนดอย หมู่ที่ 7 ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
ท่ามกลางกระแสข่าวตลอดทั้งวันว่านายสมคิดได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีแล้วเป็นคนแรกในวันที่ 15 ก.ค.
“สนธิรัตน์”ปัดตอบบอกไม่รู้เรื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายสนธิรัตน์ ได้เดินทางออกจากห้องทำงานกระทรวงพลังงานในเวลา 17.00 (วันที่ 15 ก.ค.) ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีเตรียมลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยกล่าวเพียงว่า “ยังไม่รู้เรื่องเลยครับ ใครบอก ไม่มีอะไรจะพูดนะครับ”
ก่อนหน้านี้ นายสนธิรัตน์ เดินทางไปร่วมประชุมที่รัฐสภา ก่อนกลับเข้ามายังกระทรวงพลังงาน ประมาณ 14.00 น. และมีการหารือกับทีมงานรัฐมนตรี โดยมีผู้บริหารสำนักงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเข้ามาหารือเป็นหน่วยงานสุดท้าย
ขณะที่ภารกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน ที่มีในกำหนดการในสัปดาห์นี้ คือ นายสมคิด และนายสนธิรัตน์ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยม บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพื่อผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนพลังงานสร้างไทยหลังสถานการณ์โควิด-19
ปมรมต.ขวางงาน - ขรก.เกียร์ว่าง
ขณะแหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ระบุว่า นายอุตตม นายสนธิรัตน์ นายสุวิทย์ นายกอบศักดิ์ ทีม 4 กุมาร ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร. ได้ถูกกดันจากฝ่ายบริหารพรรคชุดปัจจุบันให้ลาออกจากรัฐมนตรี เพื่อบีบให้นายกรัฐมนตรีเร่งปรับคณะรัฐมนตรี เปิดทางผู้บริหารพรรคชุดใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน
ขณะเดียวกันในภาวะปัจจุบันยังพบว่าข้าราชการเกียร์ว่าง ทำให้การผลักดันผลงานออกมาเป็นไปอย่างลำบาก รวมทั้งการผลักดันนโยบายสำคัญในคณะรัฐมนตรีก็ไม่สามารถทำได้ เช่น นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน ที่ถูกรัฐมนตรีในพรรค พปชร.ด้วยกันขัดขวาง จึงเป็นชนวนแตกหัก ทำให้กลุ่ม 4 กุมารตัดสินลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
“สมคิด-4กุมาร”ร่วมงานประยุทธ์6ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามาร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ของนายสมคิดและกลุ่ม 4 กุมาร เริ่มต้นตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งนายสมคิดดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2558 เพื่อมาทดแทนทีมเศรษฐกิจของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอุตตม และนายสุวิทย์ เข้ามาพร้อมกับนายสมคิด โดยนายอุตตม ดำรงตำแหน่ง รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขณะที่นายสุวิทย์ ดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ส่วนนายสนธิรัตน์ เข้าร่วมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2559 ในตำแหน่งรมช.พาณิชย์ โดยทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด ร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ มายาวนานเกือบ 6 ปี
“ปรีดี”รับปากร่วมรัฐบาล-จ่อนั่งรมว.คลัง
ขณะที่แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทาบทาม นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย มาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง โดย พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชอบแนวคิดของนายปรีดีมานาน โดยเฉพาะแนวคิดการจัดการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในการทาบทามช่วงแรก นายปรีดี ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยขออยู่เบื้องหลัง เป็นทีมที่ปรึกษาให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมให้เหตุผลว่า ถนัดงานเบื้องหลังมากกว่า ทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ติดต่อทาบทามบุคคลอื่น แต่ก็ยังถูกปฏิเสธ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเกลี้่ยกล่อมนายปรีดีอีกครั้ง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมมอบหมายให้คนใกล้ชิด และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีช่วยพูดคุย จนในที่สุดนายปรีดารับปากว่าจะมาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์
ทั้งนี้ ภายหลังที่นายปรีดีตอบรับการทาบทาม นายดิสทัต ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่งจะต้องมีการลาออกจากตำแหน่งทางธุรกิจ และเตรียมการเรื่องบัญชีทรัพย์สินหนี้สินด้วย
เปิดประวัติ“ปรีดี”บิ๊กบอสธ.กสิกร
สำหรับประวัติเพิ่มเติมของนายปรีดี จบการศึกษาด้านกฎหมาย ระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบเนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ระดับปริญญาโท ด้านกฎหมายเปรียบเทียบ จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา จากนั้นได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตรที่เกี่ยวกับการบริหารองค์กรภาคธุรกิจมากมาย
ประวัติการทำงาน เริ่มงานที่สำนักกฎหมาย ธนาคารกสิกรไทย เมื่อปี 2525 และเติบโตมาตลอด โดยเฉพาะในงานด้านสินเชื่อ และการปรับโครงสร้างหนี้ ในปี 2544 ขึ้นเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ปี 2547 เป็นรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และปี 2556 ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย
นอกจากนั้น ยังเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย เป็นกรรมการอีอีซี และกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม สำหรับการเป็นคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการดำรงตำแหน่งตามคำสั่งหัวหน้า คสช. เช่นเดียวกับตำแหน่งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ก็เป็นไปตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 71/2557 จึงถือว่าเคยทำงานร่วมกับรัฐบาล คสช.และพล.อ.ประยุทธ์ มาก่อนแล้ว
จับตา“ทศพร”นั่งรองนายกฯ-คุมเงินกู้
นอกจากนี้ ในส่วนของตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ที่จะมาแทนนายสมคิด มีชื่อนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยช่วยดูแลเรื่องเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท โดยนายทศพร จะเกษียณอายุราชการในปีนี้พอดี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ วางกรอบการปรับ ครม.ไว้ในช่วงเดือน ก.ย. เพื่อรอให้นายทศพร และนางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้รับการทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ แทนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ได้เกษียณอายุราชการก่อน แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องปรับ ครม.โดยเร็ว นายทศพรและนางบุษยา อาจจะต้องลาออกจากราชการก่อนเกษียณ
ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องรอให้นายทศพรและนางบุษยา เกษียณอายุราชการ พล.อ.ประยุทธ์ ยังสามารถขอมติ ครม.เพื่อแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีที่เหลือให้รักษาการในตำแหน่งที่กลุ่ม 4 กุมาร ลาออกไปพลางก่อนได้ เพื่อรอเวลาปรับ ครม.ในช่วงเดือน ก.ย.ตามกำหนดเดิม
“ไพรินทร์”เต็งเก้าอี้รมว.พลังงาน
ส่วนตำแหน่ง รมว.พลังงาน ที่จะมาแทนนายสนธิรัตน์ คาดว่า จะเป็นนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรมช.คมนาคม ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 1 และประธานคณะกรรมการ โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ธุรกิจโรงไฟฟ้าในเครือ ปตท.
สำหรับ ตำแหน่ง รมว.พลังงาน เป็นที่หมายปองของกลุ่ม ส.ส.ภายในพรรคพปชร. โดยเฉพาะนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ต่างก็ต้องการตำแหน่งนี้เช่นกัน
“เทพไท”ชี้การเมืองกระเพื่อม
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการปรับ ครม.ว่า คงถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องปรับ ครม.อย่างแน่นอน จะประวิงเวลา ซื้อเวลาหรือยื้อเวลาออกไปให้ผ่านวิกฤตโควิด-19ไปก่อน คงเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเมื่อมีรัฐมนตรีลาออกพร้อมกันถึง 4 คน และยังมีรัฐมนตรีที่ถูกพรรคการเมืองต้นสังกัดเสนอเปลี่ยนตัวอีก 1 คน คือ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้เปลี่ยนตัวเป็นนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มาก่อนหน้านี้แล้ว รวมแล้วต้องปรับรัฐมนตรีอย่างน้อย5คน
นายเทพไท ระบุต่อว่า ไม่รวมถึงนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศที่แสดงอาการถอดใจ จะลาออกก่อนหน้านี้อีก 1 คน จึงเป็นเหตุให้มีการปรับ ครม.ครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ในทางการเมืองทุกครั้งที่มีการปรับ ครม.ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองตามมาไม่มากก็น้อย ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ก็แล้วกัน
ปชป.เลือดไหลทีม“จุรินทร์”ไขก๊อก
ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีรายงานข่าวจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัครส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว
สำหรับนายพายุแม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่มีบทบาททำงานร่วมกับผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันมาโดยตลอด โดยมีตำแหน่งเป็นคณะทำงานนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงเป็นคณะที่ปรึกษานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ส่วนเหตุผลการลาออกคาดว่าจะเกิดจากปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับความขัดแย้งในการทำพื้นที่จ.ชลบุรี ที่มีความเห็นไม่ลงรอยกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคภาคกลางและภาคตะวันออก มาตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
“กรุง-สลิลทิพย์”ลงซ่อมปากน้ำ
สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จ.สมุทรปราการ ในวันนี้นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เลขาธิการพรรค พปชร. จะเดินทางไปให้กำลังใจกับนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเวลา เวลา 08.00 น. ที่ อบต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ขณะที่นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ ผู้สมัครรับการเลือกจากพรรคเพื่อไทย จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเวลา 08.00 เช่นกัน