67 จังหวัด รับมือพายุ 'ซินลากู' เลยอ่วมนายกฯสั่งเร่งช่วย
กรมอุตุฯ เตือนทั่วประเทศรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อน “ซินลากู” ส่งผลฝนตกหนัก-น้ำทะลักหลายพื้นที่ “เลย” อ่วมสุดน้ำป่าทะลัก 3 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน มท.สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ขณะที่นายกฯ สั่งระดมทีมช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากสถานการณ์พายุโซนร้อนซินลากู ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องพายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 02 สิงหาคม 2563ระบุว่า บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 106.8 องศาตะวันออก
มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์ ประเทศเวียดนามในเช้าวันนี้ (2 ส.ค. 63)หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อนซินลากู บริเวณอ่าวตังเกี๋ย กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลาง และภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน67จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่2– 4 สิงหาคม 2563
เลยอ่วมสั่งเร่งอพยพประชาชน
ส่วนสถานการณ์จ.ต่างๆอาทิที่จ.เลย เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในเขต อ.เมืองเลย อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม จ.เลย ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน
โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หน่วยงาน ปภ.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยในทันที โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่มีสภาพชั้นเดียว รวมถึงบ้านเรือนที่มีเด็กและคนชราอาศัยอยู่ ให้เร่งอพยพออกมายังที่ปลอดภัยก่อน พร้อมทั้งประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้จัดเตรียมสถานที่อพยพและเครื่องอุปโภคบริโภคให้พร้อมเพรียง
ส่วนเส้นทางคมนาคม และการติดต่อสื่อสาร ที่ถูกตัดขาด เช่น สะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถนนที่ใช้สัญจร และระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ประสานการแก้ไขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย และหน่วยทหารในพื้นที่ เพราะยังมีความจำเป็นในการลำเลียงการช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ เช่น อาหาร และดูแลผู้เจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ จากเหตุอุทกภัย ตลอดจนให้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเลย ในการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตราย และสำรองการใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับพื้นที่อพยพอีกด้วย โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือทุกคน ได้คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและตัวเจ้าหน้าที่เอง เป็นลำดับแรก เพื่อป้องกันการกันสูญเสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังได้มีการแจ้งประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 6 (147/2563) เรื่อง พายุระดับ 3 (โซนร้อนซินลากู) (SINLAKU) ว่า ร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อนซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกําลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ ภาคเหนือ
เตือนทุกพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้ ประกอบกับร่องมรสุมกําลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งเกาะไหหลํา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกําลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้
ทั้งนี้ พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้ (ภาคเหนือ) ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลําพูน ลําปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เลย หนองบัวลําภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อํานาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ (ภาคกลาง) นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี (ภาคตะวันออก) นครนายก ระยอง จันทบุรีและตราด (ภาคใต้) ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ก็ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวได้เฝ้าระวัง และติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายกฯสั่งระดมทีมช่วยเหลือ
ด้านน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงถึง โดยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หน่วยทหารในพื้นที่ และเจ้าหน้่าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัด ประกอบด้วย อ.เมือง ต.น้ำสวย รวม 7 หมู่บ้าน อ.เชียงคาน จำนวน 2 ตำบล ได้แก่ ต.เขาแก้ว รวม 2 หมู่บ้าน และ ต.ธาตุ รวม 9 หมู่บ้าน และ อ.ปากชม จำนวน 3 ตำบล ได้แก่ ต.เชียงกลม ต.ห้วยบ่อซืน และต.ชมเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนของประชาชนเมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยนายกรัฐมนตรี กำชับให้ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น รวมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหาย อย่าปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อน เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสัตว์เลี้ยง พร้อมกับให้เคลื่อนย้ายชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย จัดหาอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ให้กับชาวบ้านอย่างพอเพียง ขอให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยชีวิตเป็นสำคัญ และย้ำเตือนให้ชาวบ้านติดตามข่าวสารรวมถึงการแจ้งเตือนจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด
เหนืออ่วม“ซินลากู”ถล่มหนัก
เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ที่จ.พะเยาในช่วงเช้าถึงบ่ายที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหล หลากเข้าท่วมหลายพื้นที่โดยบ้านแม่กาหัวทุ่ง หมู่ 12 ตำบลแม่กาอำเภอเมือง จังหวัดพะเยาถูกน้ำท่วม ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร ได้รับความเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมขังในบ้านเรือนจนต้องขนย้าย เครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคไว้ในที่สูง และบางส่วนถูกน้ำท่วมเสียหาย
ที่จ.เชียงราย ฝนที่ตกอย่างหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากพัดเอาถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ เส้นทางหมายเลข 118 ช่วง ที่มีการทำเส้นทางใหม่ จุดก่อนถึงด่านแม่โถ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
ที่จ.ลำปางได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ บ้านเปียงใจ ม.4 ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม หลายหลังคาเรือน โดยระดับน้ำมีความสูง ตั้งแต่ 30 ซ.ม. ถึง 50 ซ.ม. บางจุดสูงถึง 1 เมตร ทางผู้นำชุมชนพร้อมด้วย อบต.ปงดอน เจ้าหน้าที่ ปภ.สาขา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้าน