ส่องที่เที่ยวกรุง 'เบรุต' ก่อนเกิดเหตุ 'ระเบิดเลบานอน' พังราบ!
ก่อนจะเกิดเหตุ "ระเบิดเลบานอน" ที่สร้างความสะเทือนใจให้คนทั้งโลก รู้หรือไม่ว่ากรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเล (เมดิเตอร์เรเนียน) และทางวัฒธรรมที่สำคัญของโลก
เหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั้งโลก “ระเบิดเลบานอน” ที่สร้างความเสียหายมหาศาลให้เมืองหลวง “เบรุต” รวมถึงมีผู้เสียชีวิตกว่า 135 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน ว่ากันว่าแรงระเบิดที่รุนแรงดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายต่ออาคารและบ้านเรือนเป็นวงกว้างกว่า 10 กิโลเมตร ตอนนี้ทั่วโลกต่างก็ส่งกำลังใจ #PrayForLebanon พร้อมบริจาคช่วยเหลือชาวเบรุตกันอย่างต่อเนื่อง
ก่อนจะเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ดังกล่าว กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน มีความสวยงามและติดอันดับเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากไปสัมผัสความสวยงามของเมืองท่าติดทะเล ธรรมชาติวิวทิวทัศน์สุดอลังการ แถมยังมีจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายให้ได้ชม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- 5 เรื่องน่ารู้ 'เบรุต' เลบานอน สวยจนต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง
- บึ้มท่าเรือ ‘เลบานอน’ พังครึ่งเมือง เสียหายกว่าแสนล้าน
- ประมวลภาพความเสียหาย 'เลบานอน' หลังระเบิดใหญ่
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะพาย้อนไปดูความสวยงามของเมืองเบรุต ก่อนที่จะเกิดเหตุ “ระเบิดเลบานอน” โศกอนาฏกรรมที่ไม่คาดฝัน และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเมือง “เบรุต” กันสักหน่อย.. เมืองเบรุต (Beirut) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเลบานอน ตั้งอยู่บนปลายแหลมเล็กที่ยื่นออกไปในทะเลเมิดิเตอร์เรเนียน และด้วยความสวยงามของทิวทัศน์แบบเมืองท่าติดทะเล บวกกับสีสันความเจริญรุ่งเรืองของเมืองใหญ่ ทำให้เบรุตได้ชื่อว่าเป็น “ปารีสแห่งตะวันออก” อีกด้วย
อีกทั้ง กรุงเบรุต (Beirut) ถือเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 5,000 ปี ที่เป็นศูนย์กลางการศึกษามาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมันโบราณ เบรุตเจริญรุ่งเรืองในช่วงที่เป็นอาณานิคมของโรมัน มีชื่อเสียงทางด้านการศึกษา กฎหมายตั้งแต่ พ.ศ. 743 อีกทั้งมีเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย
มีช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์เลบานอน มีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น (สงครามศาสนาระหว่างคริสต์และมุสลิม) กินเวลานานหลายสิบปี แต่หลังจากสิ้นสุดสงครามใน พ.ศ. 2533 ชาวเลบานอนได้สร้างเบรุตขึ้นใหม่โดยส่วนใหญ่เกิดจากแรงงานของทหาร เมืองเบรุตกลับมาเป็นศูนย์กลางของตะวันออกกลางทางด้านการค้า แฟชั่น และการสื่อสาร
ต่อมาแม้ว่าเลบานอนจะยังเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นอีกหลายครั้ง แต่ก็สามารถจัดการให้สงครามสงบลงได้ และปัจจุบันกรุงเบรุตได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามอลังการยอดนิยม ดังนี้
1. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงเบรุต (Beirut National Museum)
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงเบรุต เป็นสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวของกรุงเบรุตไว้อย่างครบถ้วน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1942 โดยรวบรวมของสะสมไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และโบราณวัตถุจากยุคกลางมากกว่า 10,000 ชิ้น และมีของสำคัญถึง 1,300 ชิ้นที่เกี่ยวกับยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคกลาง ที่นี่รวบรวมโบราณวัตถุมากมายจากการสำรวจทั่วประเทศเลบานอน ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าอีกแห่งของโลกทีเดียว
2. Saint George’s Orthodox Cathedral
ที่นี่เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเบรุต ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1767 ภายในมีสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่มีช่สวงหนึ่งที่มหาวิหารแห่งนี้ถูกลอบวางระเบิดภายในโบสถ์ช่วงปี ค.ศ. 1975 ทำให้มีการค้นพบโบสถ์เก่าสมัยจักรวรรดิไบแซนไทน์ที่ถูกฝังอยู่ใต้โบสถ์แห่งนี้อีกด้วย
3. มัสยิดโมฮัมหมัดอัล-อามิน (Mohammad Al-Amin Mosque)
เป็นมัสยิดของมุสลิมนิกายสุหนี่ที่ใหญ่ที่สุดในเลบานอน โดยมีอาณาเขตประมาณ 11,000 ตารางเมตร มีจุดเด่นที่แปลกตากว่ามัสยิดทั่วไปคือ โดมสีฟ้าที่ทำจากกระเบื้องสูงถึง 48 เมตร และยังมีหอคอยสูง 65 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมความงามภายในมัสยิดที่มีการออกแบบสถาปัตกรรมที่อลังการน่าตื่นตาตื่นใจ
4. โขดหินนกพิราบ (Raouche Rock)
เป็นกลุ่มหินรูปทรงประหลาดสูง 60 เมตรที่อยู่กลางทะเล โดยชาวท้องถิ่นจะเรียกขานกันว่า “โขดหินนกพิราบแห่งราอูเช” ที่นี่ถือเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเบรุต ถือเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักเดินทางจากทั่วโลก มีจุดชมวิวที่หน้าผาให้นักท่้องเที่ยวสามารถเดินไปชมโขดหินดังกล่าวได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งบริเวณใกล้ๆ กันยังมีร้านกาแฟคาเฟ่ให้ได้แวะจิบกาแฟพร้อมชมทิวทัศน์ของโขดหินอันโด่งดังที่ตั้งตระหง่านอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ด้วย
5. จัตุรัสนิจเมห์ (Nejmeh Square)
ช่วงหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 เลบานอนเคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสมา 20 กว่าปี จากนั้นก็ปลดแอกและได้รับอิสรภาพ ปัจจุบันเมืองเบรุตจึงยังคงมีกลิ่นอายและมรดกตกทอดของฝรั่งเศสอยู่ เห็นได้ชัดจากลักษณะอาคารบ้านเรือน และผังเมืองที่มีจัตุรัสกลางเมืองอย่าง “จัตุรัสนิจเมห์ (Nejmeh Square)”
ที่นี่มีอาคารรัฐสภาและหอนาฬิกาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยที่เลบานอนถูกฝรั่งเศสปกครอง รอบๆ หอนาฬิกาจะเป็นร้านคาเฟ่และร้านอาหารมากมายตั้งอยู่เรียงราย เป็นแหล่งแฮงเอาท์ท่ามกลางอากาศดีๆ ของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ตรงข้ามของรัฐสภาคือโบสถ์เซนต์ จอร์จซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเบรุต
6. ท่าเรือ Zaitunay (Zaitunay Bay)
ช่วงสงครามกลางเมืองปี 1975 บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ ถูกทิ้งขว้างมาเป็นระยะเวลา 15 ปี ท่าเรือหลายแห่งถูกให้กลายเป็นที่ทิ้งขยะ แต่ปัจจุบันท่าเรือเหล่านี้ถูกพัฒนาในเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของกรุงเบรุต หนึ่งในนั้นคือ ท่าเรือ Zaitunay ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ภัตราคารหลายแห่ง มีการแสดงกลางแจ้ง ตลาดขายสินค้าท้องถิ่น
ส่วนพื้นที่รอบๆ ถูกออกแบบและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม มีเรือยอชท์จอดเรียงรายหนาแน่น ทำให้ท่าเรือแห่งนี้เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อน