'ม็อบอาชีวะ' บุกสภาฯ ร้องจัดการนักการเมือง หนุนหลังม็อบหมิ่นสถาบัน

'ม็อบอาชีวะ' บุกสภาฯ ร้องจัดการนักการเมือง หนุนหลังม็อบหมิ่นสถาบัน

"ม็อบอาชีวะ" บุกสภาฯ จี้ 2 ข้อ จัดการนักการเมืองอยู่เบื้องหลังม็อบหมิ่นสถาบัน

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 บรรยากาศการชุมชุมกลุ่มต่างๆ ที่บริเวณรัฐสภา อาทิ กลุ่มแนวร่วมปกป้องสถาบันฯ นำโดย ศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันฯ ประมาณ 50 คน นัดรวมตัวกันที่บริหน้าศูนย์ราชการกรุงเทพมหนคร (เกียกกาย) เพื่อยื่นเรื่องต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแสดงจุดยืนให้ดำเนินการกลับกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่ม และกลุ่มคนที่จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ในโลกออนไลน์ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการอย่างจริงจังละเลยให้บานปลาย

โดยมี นายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาฯ เป็นผู้รับหนังสือ

นายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู แกนนำได้อ่านแถลงการณ์ว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันต้องการความรู้รักสามัคคี แต่มีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหว โดยนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุยงให้แตกแยก เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น กลุ่มนักเรียนอาชีวะและนักศึกษา ประชาชนที่มีใจรักสถาบันและแผ่นดินไทยเห็นว่าถึงเวลาที่จะรวมตัวกันประท้วงกลุ่มคนเหล่านั้นที่ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือทำลายชาติ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ พวกเราจึงรวมตัวกันจัดตั้งศูนย์การประสานงานนักศึกษาอาชีวะประชาชนปกป้องสถาบัน(ศอปส.) ขึ้นเพื่อดำเนินการท้วงติงให้สติต่อกลุ่มเยาวชน พ่อแม่ ครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่รัฐ ให้ตระหนักถึงภัยคุกคามของชาติ 

โดยกลุ่มจะใช้วิธีการต่อต้านโดยการเปิดเผยชื่อบุคคลที่ชังชาติ และดำเนินการกับกลุ่มที่หมิ่นสถาบันอย่างถึงที่สุด 

“หากมีกลุ่มจาบจ้วงสถาบัน พวกผมก็จะไปยืนดูอย่างสงบนิ่ง  และจบตาทุกคนที่จาบจ้วง ตนจะล็อกเป้าทุกคน แต่ล๊อกเป้ามาเจรจากัน” นายสุเมธ กล่าว        

นอกจากนี้ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่  ได้อ่านข้อเรียกร้องถึงประธานสภาฯ ขอให้รัฐสภาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์มีเจตนารมณ์อย่างไรซึ่งจากการประชุมได้ข้อสรุป 3 ข้อ 

1. มีกลุ่มการเมืองที่มีเจตนาไม่ดีต่อสถาบันซึ่งอยู่เบื้องหลังการชุมนุมและมีการส่งชุดความคิดไม่ถูกต้อง

2. ตั้งแต่ก่อนการเลือก กลุ่มนักการเมืองพยายามสร้างวาทกรรมแบ่งแยกพรรคการเมืองออกเป็น 2 ฝ่ายฝ่ายหนึ่งคือประชาธิปไตยฝ่ายที่ 2 คือเผด็จการการกระทำเช่นนี้ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจผิด 

3. ปัจจุบันกลุ่มการเมืองใช้วาทกรรมในการแบ่งแยกประชาธิปไตยออกจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ในนามกลุ่มพิจารณาแล้วว่ารัฐสภาซึ่งเป็นสถาบันด้านประชาธิปไตยที่มีหน้าที่ให้ความรู้ด้านประชาธิปไตยให้ถูกต้องต้องดำเนินการดังนี้ 

  • ควบคุมการเมืองที่ปลุกปั่นอย่าให้ดำเนินการเช่นนี้อีก และตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองเหล่านี้พร้อมลงโทษตามความผิดรัฐธรรมนูญ 
  • ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สุดท้ายนี้พวกเราขอยืนยันว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยจะต้องเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและส่วนตัวผมเป็นเด็กรุ่นใหม่ยอมรับไม่ได้ที่ใครจะมาจากร่วมสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเดินทางมายื่นหนังสือที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาแต่มีเจ้าหน้าที่คอยสกัดเพื่อไม่ให้มีการประทะกับกลุ่มครส.ที่ยื่นข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ก่อนหน้า