ข่าววัคซีนคืบหน้าหนุนตลาด

โดยได้รับปัจจัยบวกจากความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,336.84 จุด (+14.83 จุด) Volume 7.2 หมื่นลบ. ต่างชาติ -468.78 ลบ. TFEX Net +3,212 สัญญา ตราสารหนี้ –1,065 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 289.93 จุด +1.05% ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีน และข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐ และความคาดหวังในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้น 1.06 ดอลลาร์ +2.6% ปิดที่ 42.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

+ตัวเลขศก.สหรัฐที่ออกมาดี อาทิ ดัชนี CPI พุ่งเกินคาดในเดือนก.ค. ดัชนี PPI ดีดตัวมากกว่าคาดในเดือนก.ค. จำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองพุ่งขึ้น ดอกเบี้ยต่ำหนุนตลาด

+ก.อุตสาหกรรมรายงานยอดยื่นขอใบอนุญาตตั้งโรงงานในนิคมฯช่วง Q3 พุ่งมูลค่าลงทุนรวม 7.4 หมื่นล้านบาท

+ วันนี้เปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษาตามปกติ แข่งกีฬาแบบมีผู้ชม ระบบขนส่งสาธารณะรับผู้โดยสารเต็มความจุ

-การประท้วงทางการเมืองภายในประเทศเข้มข้นขึ้นมีนัดหมายชุมนุม 16 ส.ค.

+ดัชนีนิกเกอิเช้าเปิด +279.40 จุด ดาวโจนส์บวก-เยนอ่อนหนุนตลาด

-ตลาดหุ้นจีนวานนี้ปิด -21.02 จุด นลท.ขายหุ้นจากวิตกขัดแย้งจีน-สหรัฐ

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.31 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.09 บาท/US

*จับตาสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุนส่วนสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดโลก จากข่าวรัสเซียจะเริ่มการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ภายในเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในระยะแรกจะเน้นการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ ประกอบกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,330-1,355 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

(+) PRM (Bloomberg Consensus 10.21 บาท) รายงานกำไรงวด 2Q63 เท่ากับ 442 ลบ. +56%YoY +66%QoQ เป็นผลจากขยายธุรกิจเรือขนส่งและเรือกักเก็บน้ำมัน (FSU) โดยในงวดดังกล่าวมีการขยายกองเรือ FSU เพิ่มอีก 1 ลำ ประกอบกับปรับอัตาค่าบริการเพิ่มขึ้นอีก 5 ลำ ตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์ IMO2020 นอกจากนี้ บริษัยังได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนที่ถูกลง ทำให้ %GPM เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 47.6% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 31.7% และไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 33.3%

อย่างไรก็ดี ด้านค่าใช้จ่ายมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าเพื่อรอการขายเรือจำนวน 58.1 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการเรือระหว่างรอการขายจานวน 14.1 ล้านบาท ของเรือในธุรกิจเรือขนส่งและสนับสนุนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทางทะเล โดยคาดว่าจะเป็นรายการบันทึกกลับในไตรมาสหน้าหากขายเรือได้

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
• หุ้นที่ผลประกอบการดีกว่าตลาดคาด (PRM WICE ORI SKN)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากความคืบหน้าด้านวัคซีน (AOT MINT ERW CENTEL VRANDA SPA SHR)

หุ้นมีข่าว

(+) SPCG (Bloomberg Consensus 17.70 บาท) รุกหนักธุรกิจโซลาร์รูฟ ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มเป็น 50 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 35-40 เมกะวัตต์ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่โครงการโซลาร์ฟาร์ม Ukujima ญี่ปุ่น ขนาด 480 เมกะวัตต์ คาดรับรู้รายได้ปี 66 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TKN (Bloomberg Consensus 12.93 บาท)   เล็งสร้างกำไรปีนี้โต 2 หลัก ชี้ครึ่งปีหลังเน้นควบคุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย ด้านราคาวัตถุดิบถูกลง 10% ลุยออกสินค้าใหม่ พร้อมหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย แม้วิกฤติโควิด-19 กระทบยอดขาย ล่าสุดจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.11 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 24 ส.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GULF (Bloomberg Consensus 37.32 บาท) มาตามนัด! ประกาศไตรมาส 2/63 เบ่งกำไรสุทธิ 1,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% โชว์รายได้จากการขาย 7,773 ล้านบาท โต 8.8% หลังรับรู้ยอดขายโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 12 โครงการเต็มไตรมาส บวกฐานลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TU (Bloomberg Consensus 15.13 บาท) โชว์กำไรไตรมาส 2/2563 ที่ 1.71 พันล้านบาท โต 1,440% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย ขณะที่มียอดขาย 3.3 หมื่นล้านบาท รายได้ 6 เดือน โตสูงสุดในรอบ 6 ปี พร้อมเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลอีก 0.32 บาทต่อหุ้น และล่าสุดซื้อหุ้นเพิ่มใน TUES1 รวมถือ 90% รุกตลาดธุรกิจค้าปลีกในลักเซมเบิร์ก (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TM (Bloomberg Consensus - บาท) ส่งซิกยอดขายวัสดุสิ้นเปลืองห้องผ่าตัดเริ่มกลับมาในเดือนสิงหาคม คาดเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ฉายภาพทิศทางธุรกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เชื่อยอดขายดีขึ้น แถมไฮซีซันหนุน มั่นใจดันผลงานโดดเด่น โชว์กำไร 6 เดือนแรกอยู่ที่ 18.34 ล้านบาท ส่วนรายได้ 308.89 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SUN (Bloomberg Consensus - บาท) เล็งแตกไลน์ลงทุนพลังงานทดแทน หวังนำขยะที่เหลือมาผลิตไฟฟ้า พร้อมศึกษาลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้า ส่งซิกยอดขายไตรมาส 3/2563 พุ่งไฮซีซันหนุน รุกขยายตลาดใหม่ ปลื้มยอดส่งออกกลุ่มเอเชียไหลเข้าเพียบ มั่นใจรายได้ทั้งปีโตทะลุเป้า 15%  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SMPC (Bloomberg Consensus 14.57 บาท) ส่งซิกครึ่งปีหลัง 2563 ออเดอร์พุ่ง จากตลาดต่างประเทศหนุน คาดรายได้ทั้งปี 2563 โต 30% ฟากโบรกเผยกำไร Q2 ดีกว่าคาด มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ปรับประมาณการกำไรปี 2563-2565 โตเฉลี่ย 9% อัพราคาเป้าหมายจาก 15 บาท เป็น 16.50 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SF (Bloomberg Consensus 5.60 บาท) พ้นจุดต่ำสุด ยอดเก็บค่าเช่าพุ่ง หนุนครึ่งหลังปี 2563 แจ่ม แถมวาดฝันปี 2564 ผลงานกลับสู่โหมดปกติใกล้เคียงปี 2562 บิ๊ก "กิตตินันท์ สำรวจรวมผล" เล็งทุ่มงบ 2.6 พันล้านบาท รีโนเวตของเดิม-ปั้นโครงการใหม่ ปูทางโกยเงินระยะยาว ยิ้มรับเทรนด์คอมมูนิตี้มอลล์บูม หนุนยอดผู้ใช้บริการคึกคัก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BIZ (ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.89 บาท) เตรียมส่งมอบงานในมือที่มีอยู่ 1.5 พันล้านบาท เข้าครึ่งปีหลังราว 500 ล้านบาท เชื่อสถานการณ์เริ่มฟื้นตัว ใส่เกียร์ประมูลงานโรงพยาบาลรัฐมากกว่า 500 ล้านบาท ส่วนโรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ มั่นใจถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5-7 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

ANAN Conference Call (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 1.45 บาท)  

รายงาน 2Q63 พลิกขาดทุน 575 ล้านบาทเนื่องจากขาดทุนในธุรกิจก่อสร้างที่มีการประเมินค่าก่อสร้างผิดพลาดจากงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งผู้บริหารชี้แจงว่างานก่อสร้างไม่ใช่ธุรกิจหลักและไม่มีแผนรับงานก่อสร้างเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ธุรกิจหลักยังมีผลการดำเนินงานที่ดีมียอดขาย presale และยอดโอนดีกว่าเป้า ผู้บริหารยังคงเป้าปี 63 ด้านยอดโอนที่ระดับเดิม 1.9 – 2.1 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 40 – 42% ขณะที่ปีนี้มี 7 โครงการมูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านบาทที่จะโอน

ความเห็น คาด consensus จะปรับลดประมาณการกำไรปี 63 จากระดับ 680 ล้านบาทและราคาเหมาะสม