บทเรียนที่ไม่เคยจำ

บทเรียนที่ไม่เคยจำ

แม้ไทยผ่านวิกฤติมาแล้วมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้เป็นบทเรียนที่ทำให้จดจำเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขในปัจจุบัน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมองไทยมีศักยภาพในการลงทุนระยะยาว แต่น่าเสียดายที่ไทยไม่อาจก้าวข้ามวิกฤติที่รอปะทุอยู่ได้

วิกฤติโควิด-19 สร้างความเปลี่ยนแปลง และสอนบทเรียนครั้งใหญ่ให้กับโลก แม้ขณะนี้ดูเหมือนสถานการณ์โดยภาพรวม รวมถึงไทยเริ่มคลี่คลาย หากแต่ยังคงต้องระมัดระวัง และดูแลสุขภาพร่างกายกันต่อไปอย่าการ์ดตก เพราะถ้าเมื่อไหร่เกิดโควิดระบาดระลอก 2 ตามมา จะยิ่งซ้ำเติมวิกฤติที่อาจยากเยียวยาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม วิกฤติในประเทศไทยวันนี้ ไม่ได้มีแค่โควิด แต่ยังมีอีกหลายวิกฤติที่รอวันปะทุ ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง ความขัดแย้งของคนในชาติ ระบบยุติธรรมที่ถูกตั้งคำถาม การบริหารประเทศที่ดูขลุกขลักไม่ราบรื่น ทุกเรื่องล้วนก่อให้เกิดเรื่องราวกลายเป็นวิกฤติที่บานปลายได้ทั้งนั้น 

แม้ว่าเราจะผ่านวิกฤติมาแล้วมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม แต่ดูเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นบทเรียนที่ทำให้เราจดจำ เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขในปัจจุบันได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง การชุมนุมเคลื่อนไหวภายในประเทศ ที่เกิดขึ้นกำลังเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายยังให้ความสนใจ โดยเฉพาะเมื่อการชุมนุมครั้งนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่ กลายเป็นตัวเดินเรื่องที่สำคัญ มีแนวคิด ข้อเรียกร้องมากมายที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกข้อเรียกร้องของทุกฝ่าย เรามองว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องรับฟัง และหาหนทางในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและสังคมเป็นที่ตั้ง วิกฤติทั้งหลายที่เกิดขึ้นในไทย ล้วนส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ไปยังฟันเฟืองต่างๆ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ หากส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่อง หรือไม่สามารถขับเคลื่อนต่อได้ จะยิ่งส่งผลให้ภาพรวมประเทศเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤติเพิ่มขึ้น

ขณะที่ในมุมมองของนักลงทุน ไทยถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญของโลก ได้รับความเชื่อมั่น เป็นที่น่ายินดีที่เรายังเห็นสัญญาณการลงทุนจากต่างชาติ มองประเทศไทยเป็นปลายทาง เป็นตัวเลือกแรกๆ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ แสดงความมั่นใจว่า หากสถานการณ์โควิดดีขึ้น จะมีโครงการขนาดใหญ่เตรียมเข้ามาลงทุนในไทยอีกมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าไทยเป็นฮับสำคัญของโลกเลยทีเดียว ขณะที่แนวโน้มการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะจีนมาไทย ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีข้อมูลระบุว่า ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงเดือนมิ.ย. 2563 การลงทุนจากจีนและฮ่องกงมาไทย มีมากถึง 530 โครงการ มูลค่า 3.6 แสนล้านบาท 

นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง ยังมีนักลงทุนต่างชาติที่ยังมองไทยมีศักยภาพในการลงทุนระยะยาว และยิ่งปัจจุบันสถานการณ์โควิดของไทยคลี่คลายไปทางที่ดีขึ้นตามลำดับ การคาดหวังที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ จึงมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ช่างน่าเสียดายที่เราไม่อาจก้าวข้ามอีกหลายวิกฤติที่รอปะทุอยู่ เป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นจากน้ำมือคนในประเทศเองทั้งนั้น ทั้งที่อดีตที่ผ่านมาเรามีหลายบทเรียนสำคัญ ที่สอนเราให้ใช้เป็นตัวอย่างในการแก้ปัญหา แต่สุดท้ายเราไม่เคยจดจำบทเรียนเหล่านั้นได้สักที