ลงต่อ ยังคงรับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ

ลงต่อ ยังคงรับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ

ภาพรวม SET Index ในระยะสั้น ยังทรงตัวอิงทางลง

มุมมอง SET Index วันพฤหัสฯ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ ปรับลดลงต่อ... หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ไม่ได้ไกล ก่อนไซด์เวย์ต่อ (ตามคาด)... ส่วนในวันนี้คาดว่าจิตวิทยาการลงทุนยังเป็นลบเนื่องจากปัจจัยภายนอกยังคงไม่ดี ในขณะที่ฝั่งภายในประเทศนั้น เชิงปัจจัยพื้นฐานถือว่าเป็นกลาง แต่
นักลงทุนอาจมีความกังวลต่อหุ้นตัวหลักในดัชนี SET50 อยู่ ก่อนหน้าที่ ตลท. จะกลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตเซลตามปกติ (ขายชอร์ตที่ราคา bid ได้) ในวันที่ 1 ต.ค. นี้.. ภาพรวม SET Index ในระยะสั้น ยังทรงตัวอิงทางลง และฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมองเป็น 2 ระดับได้แก่กรณีปกติ = 1,260 จุด (อิง 12-mth earnings yield gap เฉลี่ย 10 ปีที่ 4.1%) และกรณีเลวร้าย = 1,220 จุด (อิง 12-mth earnings yield gap ที่ 4.5%)

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบ: i) ดัชนี Markit Flash composite PMI เดือน ก.ย. ทั้งของฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ลดลงจากเดือน ส.ค. สะท้อนถึงภาพการฟื้นตัวที่ช้าลง หลังจากการระบาดรอบที่สองของ COVID-19 ii) สถานการณ์ติดเชื้อ COVID-19 ในยุโรปแย่ลงอีก ฝรั่งเศสและสเปนติดเชื้อ 1.3 หมื่นคนและ 1.1 หมื่นคนตามลำดับ เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ฝรั่งเศสเตรียมคุมเข้มการใช้ชีวิตของประชาชนอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นประเทศที่ 3 ในยุโรปที่กลับมาคุมเข้ม (หลังจากสเปน และอังกฤษ) iii) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงแรงหลังจากนักลงทุนเพิ่มความกังวลต่อความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2... หลังจากพรรค
เดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่มีแนวโน้มหาจุดร่วมกันได้ โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการแจกเงินให้คนอเมริกัน 1,200 ดอลล่าร์ฯ/คน

ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นกลาง: i) เมื่อวานนี้ กนง. มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ซึ่งเป็นไปตามที่เราและ consensus คาด และ กนง. ปรับเป้าหมาย GDP ปี 2563 ขึ้นเล็กน้อย แต่ปรับปี 2564 ลดลงตามสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นช้ากว่าเดิม (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ วันนี้)...ในส่วนของปัจจัยการเมืองนั้น กลุ่มต่อต้านรัฐบาลนัดชุมนุมที่รัฐสภาในวันนี้ เพื่อติดตามการประชุมสภาในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร PTG*, SF, AMA

- PTG* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.0 บาท / แนวต้าน 18.5 บาท และถัดไป 18.9 บาท (Trailing stop 17.4 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงาน 3Q63 ยังโตเด่น +80% YoY (ค่าการตลาดฯ + ปริมาณขายดีขึ้น) แต่ชะลอตัวลงเล็กน้อย -9% QoQ (ค่าการตลาดฯลดลงเล็กน้อย QoQ) ขณะที่ประเมิน Upside จะอยู่ที่ธุรกิจไบโอดีเซลที่ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับขึ้นแรงต่อเนื่อง (โอกาสกำไรสต็อกมากกว่าคาด)

- SF (เป้าพื้นฐาน 5.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.42 บาท / แนวต้าน 4.52 หากผ่านได้ประเมินต้านถัดไป 4.7 บาท (Stop loss 4.30 บาท) 2) ประเมินผลกระทบจากโควิด-19 น้อย จาก i) ลูกค้าส่วนใหญ่ของ SF เป็นคนไทย จึงได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง น้อยกว่าผู้ประกอบการอื่น อย่าง CPN* และ MBK ii) ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ให้ลูกค้าน้อยลงใน 2H63 และน้อยกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3) PE ปี 2563 - 64 ต่ำเพียง 8.5 และ 7.0 เท่าตามลำดับ

- AMA (เป้าพื้นฐาน 6.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.4 บาท / แนวต้าน 4.6 หากผ่านได้ประเมินต้านถัดไป 4.84 บาท (Stop loss 4.0 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นปรับลงสะท้อนความกังวลอัตราการทำกำไรของธุรกิจขนส่งทางรถ ขณะที่อัตรากำไรของการขนส่งทางเรือยังสูง ทำให้ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q63 ยังเติบโตเด่น +12% YoY แต่ชะลอลง -5% QoQ 3) คาด PE ปี 2563 - 64 ตํ่าเพียง 14 เท่าและ 12.5 เท่า ตามลำดับ (-1 sd ในอดีตอยู่ที่ 12.3 เท่าและค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ 30 เท่า) และ PBV ลงมาที่ราว 1.1 เท่า (-1 sd ในอดีตอยู่ที่ 1.0 เท่าและค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ 30 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(+) SCGP ขายไอพีโอ 1,127.6 ล้านหุ้น เคาะช่วงราคา 33.50-35 บาท เปิดจอง 28 ก.ย.-7 ต.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) SCGP เดินหน้าเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 1,127.6 ล้านหุ้น กำหนดช่วงราคาขาย 33.50-35.00 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-7 ต.ค.นี้ คาดระดมทุน 4.3-4.5 หมื่นล้านบาท
เพื่อขยายธุรกิจ และเตรียมเข้าเทรดใน SET ภายในต.ค.นี้

(+) BCPG* ไฮซีซันญี่ปุ่น-ลาว หนุนกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม (ทันหุ้น) BCPG* จับตาผลงานไตรมาส 3/2563 พีคสุด หลังเข้าไฮซีซันธุรกิจในญี่ปุ่น-ลาว หนุนความต้องการใช้ไฟฟ้าขยายตัววางเป้า 5 ปีใช้เงินลงทุน 4 หมื่นล้านบาท ขยายธุรกิจ-ซื้อกิจการ พร้อมปักธงรักษาระดับเติบโต EBITDA ไม่ต่ำกว่า 13-15%
ต่อปี ชี้ปี 2564 ลงทุนโครงการใหม่มากสุด

(+) AMA เรือขนส่งสู่ภาวะปกติ โบรกเล็งสัญญาณงบ Q3 เด่น (ทันหุ้น) AMA ชีเ้รือขนส่งเข้าสู่ภาวะปกติ คาดปริมาณขนส่งพุ่งขึ้นแตะ 1.45 ล้านตัน จากปีก่อน 1.35 ล้านตัน พ่อทัพใหญ่ "พิศาล รัชกิจประการ" ลุ้นผลงานไตรมาส 3/63 โตเด่น ลุยเพิ่มรถบริการอีก 20 คัน ด้านโบรกดีดลูกคิดกำไรไตรมาส
3/63 อยู่ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เคาะเป้า 6.20 บาท

(+) JAS ผนึกพันธมิตรเกาหลี รุกธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ (ข่าวหุ้น) JAS ส่ง JTS ผนึก KT Corporation (KT) พันธมิตรเกาหลีใต้ รุกเข้าสู่ตลาด Hyperscale Data Center และ Cloud Service พร้อมดึงผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกมาเปิดตลาดคลาวด์โซลูชั่นอย่างครบวงจรในไทย

(+) ACG รุกศูนย์ซ่อมรถยนต์บุกกรุงเทพฯเป้า 20 ล.คัน (ทันหุ้น) ACG ดีลเปิดศูนย์บริการ FAST FIT ใกล้จบ คาดเห็นภูเก็ตแห่งแรกปีนี้ วางเกมชิงพื้นที่บริการกรุงเทพฯ ดันสาขาครบ 15 แห่ง เจาะฐานรถยนต์ 20 ล้านคัน พร้อมลุยทำเลใหม่ผุดโชว์รูมเพิ่ม จากปัจจุบัน 10 สาขา ส่องทิศทางไตรมาส 3/2563
ดีกว่าไตรมาสก่อน เน้นบริหารจัดการสต็อกให้เพียงพอต่อการขาย และรองรับความต้องการของลูกค้า