CPALL - ซื้อ

CPALL - ซื้อ

ประมาณการ 3Q63: ยังถูกกระทบจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ

Event

เราคาดกำไรสุทธิของ CPALL ใน 3Q63 จะอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท (-18% YoY, +60% QoQ) ทำให้กำไรสุทธิงวด 9M63 อยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท (-19% YoY) คิดเป็น 65% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรากำไรที่ลดลง YoY จะเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลยังห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยอยู่ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ภายในประเทศ

lmpact

คาดว่า SSSG จะหดตัวจากการที่รัฐบาลยังห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ

เราคาดว่า SSSG ของ CPALL จะยังคงหดตัวจากการที่ประเทศไทยยังห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศอยู่ แต่ก็การที่รัฐบาลประกาศวันหยุดยาวเป็นกรณีพิเศษ (4-7 กันยายน) และการจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ (เราเที่ยวด้วยกัน) ก็น่าจะช่วยชดเชยผลกระทบไปได้บางส่วน ดังนั้น เราจึงคาดว่า SSSG ใน 3Q63 จะหดตัว -8% (จาก +2% ใน 3Q62 และ -20.2% ใน 2Q63) ซึ่งจะทำให้SSSG เฉลี่ยในงวด 9M63 อยู่ที่ -10.7% (เทียบมมติฐานปี 2563 ของเราที่ -10%) เราคาดว่า CPALL จะเปิดสาขาใหม่ 200 ร้านใน 3Q63 ซึ่งจะทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเมื่อสิ้นงวด 3Q63 อยู่ที่ ~12,300 ร้านและจำนวนสาขาที่เปิดใหม่ YTD อยู่ที่ประมาณ 600 ร้าน จากเป้าของบริษัทที่ 700 ร้าน

อัตรากำไรลดลง

เราคิดว่าการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้ายังเป็นไปตามคาด ทั้งในส่วนของสินค้าอาหาร และไม่ใช่อาหาร ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีสัดส่วนสินค้า margin สูง (ผักและผลไม้สด) และของใช้ส่วนตัว(จากวันหยุดยาว) เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้า (ของร้านสะดวกซื้อ) จะเพิ่มขึ้น 30bps YoY จาก 26.5% ใน 3Q62 เป็น 26.8% ใน 3Q63 แต่อย่างไรก็ตาม สัดส่วนยอดขายจากธุรกิจ Cash&Carry ที่เพิ่มขึ้น และการประหยัดต่อขนาดที่ลดลงจากยอดขายร้านสะดวกซื้อที่ลดลงก็จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมใน 3Q63 อยู่ที่ 22.5% (-40bps YoY, +110bps QoQ) และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมงวด 9M63 อยู่ที่ 22.1%(-50bps YoY) เทียบสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 22.2% เราคาดว่าบริษัทจะยังคงจัดโปรโมชั่นรวมกับ supplier ซึ่งจะทำให้ EBIT margin อยู่ที่ 5.7% (-50bps YoY, +130bps QoQ)

คาดว่ากำไรจะยังคงลดลง YoY ใน 4Q63

เนื่องจากรัฐบาลยังคงควบคุมการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราจึงคาดว่า SSSG ใน 4Q63 น่าจะยังคงหดตัวในระดับปานกลาง (เลขหลักเดียวค่อนไปทางสูง) อย่างไรก็ตาม การคุมต้นทุนและการจัดโปรโมชั่นร่วมกับ supplier น่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบไปได้บ้าง

Valuation & Action

จากประเด็นเรื่องดีลการซื้อ Tesco เราจึงประเมิน PER แบบมี discount ที่ 29.0X (-0.5 S.D. เฉลี่ยระหว่าง Siam Makro (MAKRO.BK/ MAKRO TB) และ CPALL) ซึ่งทำให้เราปรับลดราคาเป้ าหมายสิ้นปี 2564 ลงจากเดิมที่ 80.00 บาท เหลือ 76.00 บาท เราคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวขึ้นในระยะต่อไป จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และการที่ประเทศไทยอาจจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่ม ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง ขยายสาขาได้ช้ากว่าที่คาดไว้ เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่ ถูกเลิกสัญญาใช้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven ความเสี่ยงด้านการขนส่งสินค้า