ส่องปรากฏการณ์! ทำไมค่ายเพลงเบื้องหลัง ‘BTS’ ถึงเป็น IPO ใหญ่สุดแห่งปี
ในเดือน ต.ค. ค่ายเพลงเบื้องหลังวง K-Pop ระดับโลกอย่าง “BTS” จะเข้าตลาดหุ้นเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก หรือ IPO ท่ามกลางการคาดหมายว่าจะเป็น IPO ครั้งใหญ่สุดของเกาหลีใต้ในรอบ 3 ปี และเพิ่มมูลค่าตลาดแซงหน้า 3 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่รวมกัน
ขณะนี้ ชื่อของ “Big Hit Entertainment” (บิ๊กฮิต เอ็นเตอร์เทนเมนต์) เรียกเสียงฮือฮาและเป็นที่จับตามองอย่างมากจากบรรดานักลงทุน และ “อาร์มี่” (ARMY) หรือแฟนคลับบอยแบนด์ 7 หนุ่ม BTS หลังจากค่ายเพลงดังประกาศแผนเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ในวันที่ 15 ต.ค.นี้
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของ Big Hit เมื่อเข้าตลาดหุ้น จะสูงกว่ามูลค่าของกลุ่ม “Big 3” หรือ 3 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้อย่าง S.M. Entertainment (เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนต์), JYP Entertainment (เจวายพี เอ็นเตอร์เทนเมนต์) และ YG Entertainment (วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์) รวมกันด้วยซ้ำ
ที่น่าสนใจคือ Big Hit จะจดทะเบียนในดัชนี KOSPI ซึ่งเป็นดัชนีหลักในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้และเป็นแหล่งรวมบริษัทรายใหญ่ของประเทศ เช่น “ซัมซุง” และ “ฮุนได” ขณะที่กลุ่ม Big 3 จดทะเบียนในดัชนี KOSDAQ ซึ่งเป็นดัชนีรองลงมาสำหรับบริษัทขนาดเล็กถึงปานกลาง
อย่างไรก็ดี การทำ IPO ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับบริษัทใดก็ตามที่ต้องการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ และอาจเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด กรุงเทพธุรกิจจึงขอสรุปปรากฏการณ์การทำ IPO ของบริษัท Big Hit ซึ่งเป็นว่าที่ IPO ใหญ่ที่สุดแห่งปีของเกาหลีใต้ ไว้ดังต่อไปนี้
- หุ้น Big Hit ราคาเท่าไร?
เดิมนั้น Big Hit มีแผนเสนอขายหุ้นใหม่จำนวนราว 7.13 ล้านหุ้น ในราคาเป้าหมายระหว่าง 105,000-135,000 วอน (ราว 2,836-3,647 บาท) และเมื่อวันที่ 28 ก.ย. บริษัทแจ้งต่อตลาดว่าได้เคาะราคาขายหุ้น IPO อย่างเป็นทางการที่ 135,000 วอน ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดของราคาเป้าหมาย
เมื่อคำนวณจากราคาดังกล่าว ทำให้ IPO ของ Big Hit จะระดมทุนได้มากถึง 962,600 ล้านวอน (ราว 26,000 ล้านบาท) ผ่านการขายหุ้นใหม่จำนวน 7.13 ล้านหุ้น และจะกลายเป็นหุ้น IPO มูลค่าสูงที่สุดในเกาหลีใต้ นับตั้งแต่บริษัทเซลล์เทรียน เฮลธ์แคร์ (Celltrion Healthcare) ระดมทุน IPO ได้ 1 ล้านล้านวอนเมื่อปี 2560
- มูลค่า Big Hit หลัง IPO?
นอกจากนั้น มีการคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของ Big Hit หลัง IPO จะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านล้านวอน (ราว 1.08 แสนล้านบาท) ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วน คาดว่า มูลค่าของค่ายเพลงนี้อาจพุ่งสูงถึง 4.8 ล้านล้านวอน (ราว 1.3 แสนล้านบาท) อิงจากราคาหุ้น 135,000 วอน
มูลค่าที่คาดกันว่าจะสูงติดลมบนของ Big Hit คิดเป็น 3 เท่าของมูลค่าตลาดรวมกันของกลุ่ม Big 3 (SM, YG และ JYP) ซึ่งปัจจุบันรวมอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านวอน (ราว 86,700 ล้านบาท)
- ผู้ก่อตั้ง-สมาชิกวงจะได้หุ้นเท่าไร?
ปัจจุบัน “บัง ชี-ฮยอก” ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Big Hit เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยถือหุ้นอยู่ 12,377,337 หุ้นคิดเป็น 43.44% ของทั้งหมด
หากคิดจากราคาขาย 135,000 วอน หุ้นของเขาจะมีมูลค่า 1.67 ล้านล้านวอน (ราว 45,188 ล้านบาท) สูงกว่ามูลค่าหุ้นที่บรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ค่ายคู่แข่งอย่าง JYP และ SM ถือในบริษัทตัวเองรวมกัน
- บัง ชี-ฮยอก ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Big Hit -
ขณะที่ 7 สมาชิกวง BTS จะได้รับหุ้นบริษัทรวม 478,695 หุ้น แบ่งเท่า ๆ กันคนละ 68,385 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 9,200 ล้านวอน (ราว 249 ล้านบาท) จากราคาที่เคาะล่าสุด
ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่รองลงมาคือ Netmarble (เน็ตมาร์เบิล) หนึ่งในบริษัทเกมมือถือรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ซึ่งซื้อหุ้น 26% ใน Big Hit เมื่อปี 2561
- อาร์มี่-คนต่างชาติซื้อหุ้นได้หรือไม่?
เหล่าอาร์มี่และประชาชนทั่วไปสามารถร่วมเป็นเจ้าของ Big Hit โดย 2 วิธี วิธีแรกคือ จองหุ้นล่วงหน้าก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่จะเปิดจองระหว่างวันที่ 5-6 ต.ค.นี้ และอีกวิธีคือ ซื้อหุ้นในช่วงเวลาซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้หลังจากหุ้น Big Hit เข้าจดทะเบียนแล้ว
ทั้งนี้ การจองหุ้นล่วงหน้ามีค่ามัดจำอยู่ที่ 50% ของมูลค่าหุ้นที่ต้องการซื้อ ตัวอย่างเช่น หากต้องการซื้อหุ้น Big Hit จำนวน 2,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 135,000 วอน รวม 270 ล้านวอน จะต้องวางเงินมัดจำ 135 ล้านวอน (ราว 3.65 ล้านบาท)
ขณะที่แฟนคลับต่างชาติก็สามารถซื้อได้ แต่หากอยู่ในเกาหลีใต้ การดำเนินการต่าง ๆ จะรวดเร็วกว่าคนที่อยู่ในต่างประเทศ และจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อเข้าจดทะเบียนแล้วเท่านั้น
สำหรับแฟนคลับต่างชาติที่อยู่นอกเกาหลีใต้ เช่น อาร์มี่ชาวไทย สามารถซื้อหุ้นได้ผ่านขั้นตอนที่ใช้เวลานานกว่า เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์ในหลายประเทศไม่รองรับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้โดยตรง ชาวต่างชาติที่ต้องการลงทุนในเกาหลีใต้จึงต้องหาโบรกเกอร์เป็นตัวแทนในการซื้อขายให้ได้ก่อน
- IPO ช่วงขาขึ้น
การทำ IPO ของBig Hit ยังมีขึ้นในช่วงที่ผลประกอบการบริษัทกำลังไปได้สวย แม้มีการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ทั่วโลกในปีนี้ ผลจากยอดขายอันล้นหลามของคอนเสิร์ตออนไลน์และของที่ระลึกของศิลปินดังซึ่งช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปจากการยกเลิกอีเวนท์ช่วงโรคระบาด
เดือน ก.ย. Big Hit แถลงว่า ผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 อยู่ที่ 49,700 ล้านวอน จากรายได้ 294,000 ล้านวอน เทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้วที่บริษัทมีผลกำไร 39,100 ล้านวอน จากรายได้ 201,000 ล้านวอน
“Big Hit ตอบสนองได้ดี ท่ามกลางวิกฤติทั่วโลกที่เหนือความคาดหมาย” เลนโซ ยุน ซีอีโอฝ่ายธุรกิจระดับโลกของ Big Hit กล่าวช่วงแถลงผลประกอบการทางออนไลน์
ขณะเดียวกัน BTS ของค่ายเพลงนี้ยังกลายเป็นกลุ่มศิลปินวงแรกนับตั้งแต่วง The Beatles ที่ครองอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงฮิต “บิลบอร์ด” ถึง 3 ครั้งในปีเดียวเมื่อปี 2562
ยุน เผยว่า แม้แผนทัวร์คอนเสิร์ตกว่า 20 อีเวนท์ในสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ต่างถูกยกเลิกหมดช่วงโควิดระบาด แต่ยังมีแฟนคลับราว 756,000 คนจากทั่วโลกจ่ายเงินเพื่อชมวง BTS เล่นคอนเสิร์ตออนไลน์หลายรอบในเดือน มิ.ย. ซึ่งตัวเลขผู้ชมนี้เทียบเท่ากับจำนวนผู้ชมในคอนเสิร์ตใหญ่ประมาณ 15 รอบเลยทีเดียว
นอกจากนี้ สินค้าที่ระลึกจากคอนเสิร์ตออนไลน์ของ BTS ยังมียอดขายราว 746,000 ชิ้นภายในสัปดาห์เดียวผ่านแอพพลิเคชั่น Weverse (วีเวิร์ส)
การประกาศเข้าตลาดหุ้นของค่ายเพลง Big Hit ยังส่งผลให้หุ้นกลุ่มบันเทิงในเกาหลีใต้ดีดตัวตามไปด้วย โดยหุ้นของค่าย YG ทะยานเกือบ 10% หุ้นของ JYP พุ่ง 8.36% และหุ้นของ SM เพิ่มขึ้นกว่า 6%
----------------------
อ้างอิง: Korea Herald, CNBC, Reuters1, Reuters2, Zapzee, Seoulz, Koreaboo, Soompi