สรุป 7 ข้อ 'ช้อปดีมีคืน' เบื้องต้น ซื้ออะไรได้ 'ลดหย่อนภาษี'
ขาช้อปมีเฮ! รัฐเปิดตัวโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ที่สามารถนำไป "ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท" แต่ก่อนจะถึงวันเปิดให้ใช้มาตรการดังกล่าว คนไทยควรรู้รายละเอียดเบื้องต้นของมาตรการนี้ให้มากขึ้น
ถือเป็นข่าวดีต้อนรับปลายปีสำหรับ 'ขาช้อป' เมื่อภาครัฐคลอดโครงการใหม่ "ช้อปดีมีคืน" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอีกระลอกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 โดยคนไทยสามารถช้อปปิ้งได้ทั่วประเทศ และสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการช้อปปิ้งนั้นมา "ลดหย่อนภาษี" ในปีถัดไปได้สูงสุดถึง 30,000 บาท
แต่ต้องบอกก่อนว่า โครงการ "ช้อปดีมีคืน" ตอนนี้ยังไม่เปิดให้ลงทะเบียน ทาง ศบศ. ต้องนำมาตรการดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม. และรอสรุปมติและการอนุมัติก่อน จากนั้นจึงจะเริ่มเปิดโครงการอย่างเป็นทางการได้ แต่ก่อนจะถึงวันเปิดให้ลงทะเบียน "ช้อปดีมีคืน" กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะพาไปเจาะลึกเงื่อนไขต่างๆ ของโครงการนี้ให้ชัดๆ อีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น โดยมีรายละเอียดที่ต้องรู้ ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ศบศ.เคาะ 'ช้อปดีมีคืน' กระตุ้นบริโภคคืนภาษีสูงสุด 30,000 บาทต่อคน
- รัฐดันกำลังซื้อ 2 แสนล้าน 'ช้อปดีมีคืน' กระตุ้นไตรมาส 4
1. โครงการ "ช้อปดีมีคืน" คืออะไร?
ช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มการบริโภคเพิ่มเติมตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกระตุ้นการบริโภคช่วงปลายปี 2563 และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี (ผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT) ส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและส่งเสริมการอ่าน
โดยจะเป็นมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้เสียภาษีโดยมีเป้าหมายที่ผู้มีรายได้ระดับปานกลางและรายได้ปานกลางระดับสูง (Upper middle income) ในการซื้อสินค้าและได้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยนำค่าใช้จ่ายที่ร่วมโครงการนั้นไป "ลดหย่อนภาษี" ได้สูงสุด 30,000 บาทต่อราย สำหรับในปีภาษีถัดไป
2. "ช้อปดีมีคืน" จะเริ่มเมื่อไหร่?
จะมีการนำแนวทางของมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" เข้าที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า โดยกระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาวันจันทร์ที่ 12 ต.ค.2563 หลังจากที่มีมติเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ในวันที่ 23 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563
3. เมื่อร่วมโครงการแล้ว ซื้อสินค้าได้ช่วงไหน?
กำหนดให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิ์ประมาณ 4 ล้านคน โดยจะใช้ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2563 ณ มี.ค. 2564 และคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1.2 แสนล้านบาท
4. "ช้อปดีมีคืน" ซื้อสินค้าอะไรถึงจะได้ "ลดหย่อนภาษี"
สำหรับสินค้าและบริการที่ใช้ลดหย่อนภาษีตามโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ได้แก่
- สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
- สินค้าท้องถิ่น OTOP
- หนังสือ
แต่ทั้งนี้ ไม่รวมสินค้าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยาสูบ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมัน ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน
5. กลุ่มเป้าหมายที่โครงการนี้คือกลุ่มไหน?
สำหรับโครกงการนี้ เน้นช่วยเหลือไปที่กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กลุ่มผู้ประกอบการค้าสินค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กลุ่มผู้ประกอบการขายหนังสือ และกลุ่มผู้ประกอบการสินค้า OTOP
6. ใครสามารถเข้าร่วม "ช้อปดีมีคืน" ได้บ้าง?
ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ "ช้อปดีมีคืน" คือประชาชนคนไทยทั่วไป แต่สำหรับประชาชนผู้ที่ใช้สิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการ "คนละครึ่ง" แล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ของโครงการนี้ซ้ำได้
7. ทำไมกำหนดเพดาน "ลดหย่อนภาษี" สูงสุดที่ 30,000 บาท?
เดิมกระทรวงการคลังเสนอลดหย่อนภาษีสำหรับโครงการ "ช็อปดีมีคืน" ให้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท แต่ที่ประชุมหารือว่า 30,000 บาทต่อราย เป็นจำนวนที่เหมาะสมมากกว่า อีกทั้งด้านภาคเอกชนเองก็ได้สะท้อนว่าจำนวนนี้เหมาะสมและสามารถจูงใจประชาชนชนได้ โดยถ้าประชาชนได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 20% ก็จะใช้จ่ายได้เท่ากับจำนวนที่มีสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีของตัวเอง