ศธ.ตั้ง "คกก.ขับเคลื่อนหยุดการใช้ความรุนแรงในเด็ก"
รมว.ศธ.เตรียมตั้ง "คณะกรรมการขับเคลื่อนการหยุดการใช้ความรุนแรงเพื่อการอบรมนักเรียน" ด้านรักษาการเลขาธิการกพฐ.กำชับทุกโรงเรียนให้ความสำคัญเรื่องนี้จริงจัง
ตามที่มีภาคประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) เรื่อง ขอเสนอมาตรการ “หยุดการใช้ความรุนแรงเพื่อการอบรมนักเรียน” จำนวน 9 ข้อ ได้แก่ 1. ประกาศเป็นโรงเรียนไม่ใช้พฤติกรรมรุนแรงต่อเด็ก ด้วยกาย วาจา อารมณ์ เพื่อการอบรมสั่งสอน 2. แจ้งกับครูและเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า เรื่องนี้ห้ามเกิดขึ้นในโรงเรียน โดยทุกคนที่เข้ามาทางานต้องรับทราบเรื่องนี้ รวมทั้งให้เซ็นรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
3. ถ้าพิสูจน์ว่ากระทำจริงจะไม่มีโอกาสได้ทำงานในโรงเรียนนี้อีก โดยจะไม่มีการใช้การขอโทษยอมรับผิด และให้ ทำงานต่อ 4. เจ้าหน้าที่และครูที่เห็นเหตุการณ์ และไม่เข้าช่วยเหลือ รวมถึงไม่แจ้งเหตุแก่ผู้บริหารโรงเรียน จะถือเป็นความผิด แบบเดียวกัน 5. อบรมเด็กทุกคนให้เป็นผู้แจ้งเหตุโดยทันที รวมถึงแต่งตั้งนักเรียน อาจเป็นหัวหน้า รองหัวหน้าห้อง ให้ทำหน้าที่แจ้งเหตุ
6. เมื่อรับแจ้งเหตุแล้ว ให้ผู้ที่มีพฤติกรรมรุนแรงต่อนักเรียนหยุดปฏิบัติการในโรงเรียน หรือห้องที่มีการ กระทำรุนแรงเกิดขึ้น จนกว่าจะพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำเพื่อป้องกันไม่ให้เอาคืนกับเด็ก หรือเกลี้ยกล่อม หรือใช้อิทธิพลแบบอื่นกับเด็กที่ถูกกระทำและเด็กที่แจ้งเหตุ 7. ติดวงจรปิด ตามที่ต่าง ๆ ที่นักเรียนอยู่ไม่ว่าจะเป็นในห้อง นอกห้อง มีผู้เฝ้าดูวงจรปิดและแจ้งเหตุทันทีที่เกิดขึ้น
8. ผู้บริหารโรงเรียน ที่ไม่สามารถดูแลให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าว ถือว่าละเลยต่อหน้าที่ และนับเป็นความผิด 9. เพิ่มทักษะครูให้มีวิธีทางบวกในการอบรมเด็ก (โดยเฉพาะครูฝ่ายปกครองและครูที่เชื่อว่าจำเป็นต้องลงโทษด้วย การตี หรือดุด่าเท่านั้นจึงจะได้ผล)
นายอัมพร พินะสา รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ทุกข้อเสนอถือเป็นเรื่องที่ดี และเร็วๆ นี้ รมว.ศธ.เตรียมที่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อที่จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานในเรื่องนี้ โดยกรรมการจะมาจากทุกภาคส่วน ทั้งศธ. ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“ผมได้กำชับให้ทุกโรงเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งในส่วนของ สพฐ.เอง ผมได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่า มีข้อเรียกที่เกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดระหว่างครูและนักเรียน จำนวน 6 เรื่อง ผมก็ได้มีการกำชับให้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด”รักษาราชการเลขาธิการกพฐ.กล่าว