กมธ.กฎหมาย จ่อถกปมรวบ'21แกนนำ-แนวร่วมม็อบ'22ต.ค.นี้
กมธ.กฎหมาย จ่อถกปมรวบ'21แกนนำ-แนวร่วมม็อบ'22ต.ค.นี้ "โรม" โวยเขี่ย “ปิยบุตร-ช่อ“พ้นที่ปรึกษากมธ.
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน แถลงถึงกรณีที่ทางกรรมาธิการไม่ต่ออายุที่ปรึกษาเนื่องจากหมดวาระ อาทิ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายโคทม อารียา นางอังคณา นิลไพจิตร เป็นต้นว่า การไม่ต่ออายุครั้งนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกรรมาธิการ คนที่คุ้นหน้าหลายคนไม่สามารถเข้ามามีบทบาทในคณะได้ และในวันที่กรรมาธิการมีการเปลี่ยนแปลงตนไม่ทราบว่ามีชื่อของนายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของประธาน จึงทำให้เกิดคำถามในใจว่าตกลงแล้วเรามีที่ปรึกษาที่มีความสามารถหลายคนในอดีต
แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเอาความสามารถและคุณวุฒิต่างๆมีประสบการณ์อย่างนายโคม และนางอังคณาที่มีชื่อเสียงด้านสิทธิมนุษยชน ที่ไม่มีโอกาสมาทำหน้าที่ในกรรมาธิการชุดนี้อีก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บรรยากาศทางการเมือง เราตั้งคำถามกันว่าการใช้อำนาจของรัฐ และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ถ้าหากเรามีคนเหล่านี้ก็คงจะช่วยการทำงานของกรรมาธิการได้มาก แต่เมื่อเรามามองดูที่ปรึกษาชุดใหม่ แม้จะมีความสามารถแต่ก็ไม่แน่ใจว่ามีจุดยืนและเคารพในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนมากน้อยแค่ไหน
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน แถลงถึงกรณีที่ทางกรรมาธิการไม่ต่ออายุที่ปรึกษาเนื่องจากหมดวาระ อาทิ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายโคทม อารียา นางอังคณา นิลไพจิตร เป็นต้นว่า การไม่ต่ออายุครั้งนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกรรมาธิการ คนที่คุ้นหน้าหลายคนไม่สามารถเข้ามามีบทบาทในคณะได้ และในวันที่กรรมาธิการมีการเปลี่ยนแปลงตนไม่ทราบว่ามีชื่อของนายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของประธาน จึงทำให้เกิดคำถามในใจว่าตกลงแล้วเรามีที่ปรึกษาที่มีความสามารถหลายคนในอดีต แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเอาความสามารถและคุณวุฒิต่างๆมีประสบการณ์อย่างนายโคม และนางอังคณาที่มีชื่อเสียงด้านสิทธิมนุษยชน ที่ไม่มีโอกาสมาทำหน้าที่ในกรรมาธิการชุดนี้อีก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บรรยากาศทางการเมือง เราตั้งคำถามกันว่าการใช้อำนาจของรัฐ และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ถ้าหากเรามีคนเหล่านี้ก็คงจะช่วยการทำงานของกรรมาธิการได้มาก แต่เมื่อเรามามองดูที่ปรึกษาชุดใหม่ แม้จะมีความสามารถแต่ก็ไม่แน่ใจว่ามีจุดยืนและเคารพในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนมากน้อยแค่ไหน
นายรังสิมันต์กล่าวว่าต่อ ตนได้มีการพูดคุยกับนายสิระ และกรรมาธิการคนอื่นๆว่าในการประชุมวันที่ 22 ต.ค.ช่วงบ่าย จะนำเรื่องปัญหาที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการไล่นักเรียนออกจากโรงเรียน จากการแสดงออกทางการเมืองหารือในที่ประชุมดังนั้นต้องจับตาดูว่าในวันดังกล่าวทางกรรมาธิการจะว่าอย่างไร เราคงได้เห็นว่าบุคคล ที่ปรึกษา เลขานุการ และกรรมาธิการทั้งหมดจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร แต่ยืนยันว่าไม่ว่ากรรมาธิการจะมีท่าทีอย่างไรคนที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนต้องได้รับคำสำคัญ เราไม่สามารถจะปล่อยให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนแบบนี้เกิดขึ้นได้
“ผมคิดว่าภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวาน(13 ต.ค.) ที่มีการจับกุม ควบคุม ไผ่ ดาวดิน และพวกอีก21 คนเป็นภาพที่เรารับไม่ได้เลย ดังนั้นผมตั้งใจที่จะเอาเรื่องนี้เข้ามาสู่การพิจารณาของกรรมาธิการด้วย”นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่ามีใบสั่งหรือไม่ที่กรรมาธิการไม่ต่ออายุที่ปรึกษาให้กับนายปิยบุตรและน.ส.พรรณิการ์ นายรังสิมันต์กล่าวว่าเรื่องนี้ตนตอบไม่ได้ว่ามีใบสั่งหรือไม่และไม่อยากคาดเดาเรื่องพวกนี้ แต่ในเมื่อใครก็ตามที่มาเป็นประธานกรรมาธิการแล้ว โดยหลักการก็ต้องเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานของกรรมาธิการทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อมาเปลี่ยนแบบนี้ตนก็ยังกังวลใจว่าประสิทธิภาพจะยังคงอยู่หรือไม่ ดังนั้นขอให้ช่วยจับตาดูที่ปรึกษาคนใหม่ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเท่าที่ดูรายชื่อหลายคนมีความสามารถแต่ยังกังขาในเรื่องของจุดยืนในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน