ตร.ลั่นเอาผิดม็อบ ชี้พฤติกรรมผิดซ้ำซาก-ส่อรุนแรง

พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษกตร.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร์ 63 ว่า จะเห็นว่าการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาปรากฏชัดเจนอยู่แล้วว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองอย่างต่อเนื่องมีการยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนทำความผิดเช่นมีการมั่วสุมก่อความวุ่นวายใช้กำลังประทุษร้ายต่อเจ้าพนักงาน ขัดคําสั่งเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยซึ่งการกระทำเหล่านั้นถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความเป็นอยู่ของประชาชนทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความไม่สะดวกไม่ปลอดภัยต่อการใช้พื้นที่ต่างๆการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งแต่ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังคงมี กระทำผิดซ้ำในข้อหาเดิมโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองในปัจจุบันกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเคลื่อนขบวนมาสู่จุดต้องห้ามตามกฎหมายมีการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลตามที่ระบุไว้ในพ.ร.บชุมนุมสาธารณะ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ยกเลิกการชุมนุมในเวลา 22.00 น แต่กลับยังพบว่ามีการชุมนุมจนถึงขณะนี้จึงเป็นที่ชัดเจนว่าการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมเป็นการชุมนุมที่ไม่เป็นไปโดยสงบมีผลกระทบโดยตรงต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนมีแนวโน้มที่จะกระทำการในลักษณะที่จะรุนแรงมากขึ้นและอาจเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองด้วยเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมายดังกล่าวข้างต้นโดยเฉพาะการกระทำที่มีผลกระทบต่อการเสด็จพระราชดำเนิน

ดังนั้นในระดับต่อไปอยากให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานและยกเลิกการชุมนุมเพื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไป

ด้านพลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น กล่าวว่า ได้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดใน 10 ข้อหาและมีการนำตัวส่งศาลอาญาเพื่อ ฝากขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่การชุมนุมยังมีการละเมิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องในวันนี้เจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะได้มีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมและเดินทางกลับบ้านก่อนเวลา 24.00น.

ขณะนี้เวลาล่วงเลยมาพอสมควรแล้วทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอเรียนเตือนอีกครั้งให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้าน เพื่อประกอบภารกิจของตนเองตามปกติมิฉะนั้นหากยังชุมนุมอยู่ยังเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอีกครั้ง

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เพิ่มเติมว่า เราไม่ได้จะบอกว่ามีการสลายชุมนุมหรือไม่สลายการชุมนุมแต่อยากจะฝากไปยังผู้ชุมนุมว่าการดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ทั้งการชุมนุมปักหลักค้างคืนถือเป็นการดำเนินการที่ขัดกับกฎหมาย

ทั้งนี้การดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมคงต้องรอพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆคงยังไม่สามารถตอบไ ด้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้อย่างดีที่สุด ขอย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการเนื่องจากมีการกระทำความผิดซ้ำเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ต่อไป

"ยังมีเวลาอีก 6 ชั่วโมง ซึ่งจะดำเนินการตามกฏหมาย เพราะมีปัจจัยทำผิดซ้ำๆ ข้อหาเดิมๆ ที่ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งโฆษกรัฐบาลก็ได้ออกมาแถลงแล้วว่าการกระทำอะไร ที่ต้องดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่ละเว้น และได้แถลงข่าวหลายครั้ง ผู้มาชุมนุมน่าจะทราบว่าทำผิดกฏหมายอย่างไร มีโทษอย่างไร อะไรที่ทำผิดกฏหมาย โดยเฉพาะที่กระทบต่อการเสด็จฯ ย่อมดำเนินการอย่างถึงที่สุด"

เมื่อถามต่อว่า จะเอาผิดกี่คน รองโฆษก ตร.กล่าวว่า "ยังตอบไมได้ว่ากี่คน เราเจรจาหาทางออกแต่ต้นถึงปัจจุบัน ต้องรอรายงานเข้ามา ซึ่งมีทีมเจรจาต่อรอง หาข่าว ก็คงต้องประชุม หาข้อสรุป ในการดำเนินการ สื่อก็เห็นแต่เช้า 12-13 ชั่วโมง ก็ได้เห็นพัฒนาการของผู้ชุมนุม และการปฏิบัติของตำรวจ"

เมื่อถามย้ำว่า จะดำเนินการอย่างไรหากผู้ชุมนุมไม่เลิก รองโฆษก ตร.ระบุเพียงว่า "ต้องดูตามสถานการณ์ ต้องไปดูข้อเท็จจริง ตัวการ ผู้สนับสนุน ก็ต้องดูกลุ่มไหน เราดูทางเลือกทุกทาง ที่เหมาะสมกับสถานการณ์"

สำหรับการปฏิบัติของตำรวจ รองโฆษก ตร. ระบุว่า ก็เป็นปกติ ซึ่งต้องมีการปรับกำลัง แผน กลยุทธ์ ในการรับมือให้เกิดความสงบสุขของประชาชนในภาพรวม ซึ่งสิทธิเสรีภาพของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ส่วนหนึ่ง ส่วนประชาชนที่อยู่ตามปกติสุขก็ต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ซึ่งเราเจรจามาตลอด ไม่อยากเกิดความวุ่นวาย แต่เมื่อวาน เราก็ต้องอดทน อดกลั้น