'ช้อปดีมีคืน' ทำยังไงถึงได้ 'ลดหย่อนภาษี' เต็มสูบ
ดูให้ชัด! เงื่อนไข โครงการ "ช้อปดีมีคืน" ที่ต้องทำตามให้ถูกต้องจึงจะได้ "ลดหย่อนภาษี" ปี 2563 แบบเต็มสูบ
ช้อปดีมีคืน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากภาครัฐ ที่ช่วยให้ประชาชนที่ทำตามเงื่อนไขของโครงการ ได้รับสิทธิ์ในการ ลดหย่อนภาษี ปีภาษี 2563 เพิ่มขึ้นจากปกติ แต่สิ่งที่ต้องระวังและต้องทำความเข้าใจก่อนออกไปช้อป คือ "เงื่อนไข" ต่างๆ ของโครงการที่จะเป็นตัวชี้วัดว่า เราจะได้รับสิทธิ์ในการลดหย่อนที่ว่านี้หรือไม่
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปเช็ครายละเอียด เงื่อนไขสำคัญ ของ ช้อปดีมีคืน 3 ประเด็นหลักที่ทำให้เข้าใจมาตรการเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สรุป! มาตรการ 'ช้อปดีมีคืน' ซื้อสินค้าอะไร? ถึงจะได้ลดหย่อนภาษี
‘คนละครึ่ง’ เผย 5 คำถาม ต้องรู้ รับสิทธิ 'เงิน 3,000 บาท'
1. ใครได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากช้อปดีมีคืนได้บ้าง
ช้อปดีมีคืน เป็นมาตราการกระตุ้นการใช้จ่ายสำหรับบุคคลที่เสียภาษีเงินได้ ด้วยการนำค่าซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนจ่ายจริงรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน ซึ่งผู้เสียภาษีแต่ละคนจะได้รับสิทธิ์ ลดหย่อนภาษี มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนเงินที่ซื้อ และคิดอัตราภาษีคืนตามระดับ เงินสุทธิ ในแต่ละปี
ซึ่งหากลองคำนวณสิทธิ์ได้รับเงินคืนภาษีสูงสุดตามระดับรายได้ ดังนี้
2. ต้องมีการเอกสารอะไรบ้าง
แม้การเข้าโครงการ ช้อปดีมีคืน จะไม่ต้องลงทะเบียนก่อนใช้สิทธิ์ สิ่งที่ลืมไม่ได้ คือการขอเอกสารเพื่อใช้ในการขอลดหย่อนภาษี
-ผู้ใช้สิทธิ์ต้องซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษี VAT
-ต้องมีใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบจากการซื้อสินค้าเป็นหลักฐาน
3. เงื่อนไขที่ต้องรู้
- ต้องอยู่ในระยะเวลาที่กำหนด คือช่วงวันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2563 ณ มีนาคม 2564
- ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) หรือเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้
- สินค้าที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ
- ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่ายาสูบ
- ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
- ค่าที่พักในโรงแรม