บอร์ดแข่งขันการค้าไฟเขียว ไกด์ไลน์ “ฟู้ด เดลิเวอรี่” ป้องกันการเอาเปรียบ

บอร์ดแข่งขันการค้าไฟเขียว ไกด์ไลน์ “ฟู้ด เดลิเวอรี่” ป้องกันการเอาเปรียบ

กขค.เห็นชอบ ไกด์ไลน์ “ฟู้ด เดลิเวอรี่”หลังเปิดรับฟังความเห็นแก้ไขปมประเด็นต่างที่ไม่ชัดเจน ทั้งการกำหนดนิยาม การเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ การกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการจำกัดสิทธิ มั่นใจสร้างมาตรฐานธุรกิจ“ฟู้ด เดลิเวอรี่” แข่งขันได้อย่างเสรีและเป็นธรรม

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.)ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาแนวปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาสำนักงานกขค.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) ผ่านเว็บไซต์สำนักงานและจัดประชุมปรึกษาหารือในรูปแบบโฟกัสกรุ๊ป(Focus Group) เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหารกับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร หรือ ไกด์ไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่ โดยข้อมูลดังกล่าวได้นำมาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม และได้ดำเนินการจัดทำไกด์ไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่  เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ร่างไกด์ไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่ ฉบับใหม่ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจาก กขค. แล้วนั้น กำลังอยู่ระหว่างรอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายต่อไป โดยเชื่อว่าไกด์ไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่จะสามารถช่วยสร้างบรรทัดฐานในการประกอบธุรกิจบริการรับและส่งอาหาร สามารถปกป้องผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่อาศัยบริการช่องทางการจำหน่ายทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม  มิให้ถูกเอาเปรียบโดยไม่มีเหตุผลสมควร สามารถแข่งขันกันได้อย่างเสรีและเป็นธรรม ในขณะเดียวกันผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหารก็สามารถดำรงธุรกิจอยู่ได้ และยิ่งไปกว่านั้น การออกไกด์ไลน์ฉบับนี้ ยังช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุดจากความมีเสถียรภาพจากการแข่งขันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

160317000964

สำหรับประเด็นที่มีการแก้ไขประกอบด้วย 1.การปรับปรุงคำนิยามคำว่า”ผู้ประกอบธุรกิจรับและส่งอาหาร" เป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหาร รวมทั้งกำหนดคำนิยามใหม่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 2.การเรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้(GP) จากเดิมที่เขียนไว้ว่า การเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ในอัตราที่สูงเกินสมควรหรือแตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ปรับแก้ไขใหม่โดยแยกเป็น  และการเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากอัตราที่เคยเรียกเก็บโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และ การเรียกเก็บในอัตราที่แตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารประเภทเดียวกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

3.การกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการจำกัดสิทธิ (Exclusive Dealing) ของผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เป็นพฤติกรรมที่ห้ามกระทำในทุกกรณี จึงได้มีการปรับแก้ไขถ้อยคำใหม่เป็น การกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการจำกัดสิทธิ (Exclusive Dealing) ของผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่มีลักษณะเป็นการบังคับโดยการห้ามจำหน่ายอาหารผ่านช่องทางของผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหารรายอื่นโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

สำหรับร่างไกด์ไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่ ฉบับใหม่ มีข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหาร ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำอันเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร มีแนวทางในการพิจารณาดังต่อไปนี้1. การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่เป็นธรรม โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารทราบล่วงหน้าถึงเหตุผลและความจำเป็นของการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยมีพฤติกรรม เช่น การเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ (Commission Fee หรือ Gross Profit (GP)) ในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นจากที่เคยเก็บ และการเรียกเก็บในอัตราที่แตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่จำหน่ายสินค้าเดียวกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร   การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโฆษณา (Advertising Fee) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น การเรียกเก็บค่าโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายโดยที่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้ เป็นต้น การเรียกเก็บค่าส่งเสริมการขายในโอกาสพิเศษทางการตลาด (Promotion) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่เคยมีการเรียกเก็บมาก่อน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

2. การกำหนดเงื่อนไขทางการค้าอันเป็นการจำกัดหรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม เช่น การกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการจำกัดสิทธิ (Exclusive Dealing) ของผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่มีลักษณะเป็นการบังคับ โดยการห้ามจำหน่ายอาหารผ่านช่องทางของผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหารรายอื่น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

3. การใช้อำนาจตลาดหรืออำนาจต่อรองที่เหนือกว่าอย่างไม่เป็นธรรม  ประกอบด้วย การแทรกแซง หรือจำกัดความเป็นอิสระในการกำหนดราคาของผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร   การกำหนดเงื่อนไขบังคับด้านราคาที่ต้องขายเท่ากันในทุกช่องทางการจำหน่าย (Rate Parity Clause)   การประวิงเวลาจ่ายค่าสินค้าตามระยะเวลาที่กำหนด (Credit Term)  การปฏิเสธการทำการค้ากับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารในระหว่างระยะเวลาของสัญญา หรือ การยกเลิกสัญญาอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ โดยไม่มีเหตุผลสมควร การยกเลิกผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารออกจากช่องทางการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขภายใต้สัญญา หรือระยะเวลาของสัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร การเปลี่ยนแปลงระยะเวลาของสัญญาโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน

และ 4.การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมอื่น ๆ