ส่องนโยบาย 'โจ ไบเดน' หากได้เป็น 'ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา' คนที่ 46

"โจ ไบเดน" ที่โลกกำลังลุ้นว่า จะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาหรือไม่คนนี้ มีชื่อเต็มว่า โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดน จูเนียร์ โดยกำลังจะอายุเต็ม 78 ปีในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว (ไบเดน เกิด วันที่ 20 พ.ย. 2485) มีบ้านเกิดที่ เมืองสแครนตัส รัฐเพนซิลเวเนีย 

ในส่วนของการศึกษา ไบเดน จบปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ ม.เดลาแวร์ (พ.ศ.2508) และ นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต ม.ซีราคิวส์ รัฐนิวยอร์ก (พ.ศ. 2511)

ส่วนประวัติด้านอาชีพ มีดังนี้

2511-2512: ทนายความในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์
2513-2515: สมาชิกสภาเทศมณฑลนิวคาสเซิล รัฐเดลาแวร์
2516-2552: ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ว.รัฐเดลาแวร์ สมัยแรกปี 2516 และชนะเลือกตั้งส.ว.อีก 6 สมัย
2530-2548: รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมวุฒิสภา
2544-2546 และ 2550-2552: รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศวุฒิสภา
2552-2560: ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี คนที่ 47 ในสมัย บารัก โอบามา
2562-2563: ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

และในเดือน พ.ย.2563 โจ ไบเดน ก็กำลังลุ้นที่จะได้เป็นชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ

ไบเดน เป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 (2552-2560) ในคณะบริหารของบารัก โอบามา โดย ไบเดน ได้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกแห่งรัฐเดลาแวร์เป็นเวลานานถึง 36 ปี และการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

• นโยบายของ "โจ ไบเดน"

สำหรับ "นโยบาย" ที่โจ ไบเดน ประกาศสู่สาธารณชนนั้น เมื่อย้อนกลับไปดูเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจาก ไบเดน เดินลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าในรัฐบ้านเกิดของตนเอง เขาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาสามารถทำงานร่วมกับพรรครีพับลิกันในการปรับปรุงกฎหมาย Affordable Care Act เพื่อให้ชาวอเมริกันมีการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น

ส่วนในประเด็นการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ไบเดนให้คำมั่นว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ฟรีให้กับชาวอเมริกันทุกคน

และหากโฟกัสไปที่ "นโยบายเศรษฐกิจ" กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ขอสรุปอย่างย่อจากบทความ นโยบายเศรษฐกิจของ ‘โจ ไบเดน’ โดย ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ คอลัมน์ มุมคิดธนกิจ (18 ก.ค.63) เกี่ยวกับ 2 ประเด็นหลักนโยบายเศรษฐกิจของไบเดน ได้แก่ นโยบายการคลังหรือภาษี และ นโยบายพลังงาน ดังนี้

• นโยบายด้านภาษี 

ไบเดนมีแนวคิดเน้นการเก็บภาษีคนรวยเพื่อนำมาสร้างงานให้กับชนชั้นกลางและล่าง ผ่านโครงการในส่วนภาคอุตสาหกรรม ไอที พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจใหม่ ภายใต้แนวทางของไบเดนที่จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลสหรัฐมากกว่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในช่วงเวลา 4 ปีต่อจากนี้ ผ่านทั้งการคิดภาษีมรดกซึ่งตามร่างกฎหมายของไบเดนจะคิดภาษีจากมรดกทั้งก้อน ต่างจากปัจจุบันที่ผู้ได้รับมรดกจะไม่ต้องเสียภาษีในส่วนของกำไร (Capital Gains)

นอกจากนี้ ไบเดนยังเตรียมร่างกฎหมายขึ้นอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ Bracket สูงสุดจาก 37% ในปัจจุบันขึ้นเป็น 39.6%

ขณะเดียวกันก็มีแนวคิดเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้น (capital gains) และเงินปันผลด้วยอัตราปกติ จากปัจจุบันคิดที่อัตราสูงสุด คือ 23.8% (ซึ่งรวมถึง Net Investment Income Tax หรือ “NIIT”) โดยจะยกเลิกอัตราภาษีพิเศษดังกล่าวในกรณีที่รายได้ก่อนหักภาษีที่มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปซึ่งจะเก็บภาษีที่ด้วยอัตราพิเศษที่อัตราสูงสุด 39.6%

และยังมีนโยบายขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็นอัตรา 28% รวมถึงการกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำสำหรับบริษัทที่มีรายได้ทางบัญชีมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์โดยต้องจ่ายภาษีไม่ต่ำกว่า 15% ของรายได้ทางบัญชี ตรงนี้ บริษัทแนวเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่งจะได้รับผลกระทบ

อีกเรื่องที่ต้องจับตา คือ ไบเดนจะยกเลิกการสนับสนุนด้านภาษีต่อธุรกิจ oil & gas รวมถึงการผลิตถ่านหินและการให้เรียกเก็บเป็นค่าใช้จ่ายต่อกิจกรรมการสำรวจแหล่งพลังงาน

• นโยบายด้านพลังงาน

ในส่วน นโยบายด้านพลังงาน ที่ผ่านมา ไบเดนได้เปิดเผยรายละเอียดนโยบายพลังงานสะอาดด้วยงบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลา 10 ปีต่อจากนี้

โดยนายไบเดน เสนอให้มีการให้อัพเกรดอาคารที่เป็นตึกสูง 4 ล้านแห่ง และบ้านที่อยู่อาศัย 2 ล้านหลัง ให้เป็นระบบพลังงานสะอาดในอีก 4 ปีข้างหน้า ผ่านการใช้วิธี rebate ที่รัฐจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน 

ทั้งยังมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตของพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์ 500 ล้านหน่วยและกังหันลมแบบ wind turbine อีก 6 หมื่นหน่วย รวมถึงมีการสร้างสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ 5 แสนแห่งทั่วสหรัฐ

ทั้งนี้ ไบเดนหวังว่าสหรัฐจะสามารถใช้พลังงานสะอาดแบบเต็มร้อยภายในปี 2035

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายอื่นๆ ที่โลกจับตามองแนวคิดของชายวัยปริ่มๆ 78 ปีคนนี้ เช่น ประเด็นการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ไบเดนให้คำมั่นว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ฟรีให้กับชาวอเมริกันทุกคน

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึง นโยบาย "Scranton vs. Park Avenue" ซึ่งเป็นโยบายเรียกคะแนนเสียงจากชนชั้นแรงงาน โดยเมืองสแครนตันเป็นบ้านเกิดของไบเดน ขณะที่ทรัมป์ใช้ชีวิตอยู่ที่ปาร์ค เอเวนิวในแมนฮัตตัน นิวยอร์กซิตี้

"นี่เป็นโอกาสของเราที่จะฟื้นฟูทุกอย่างให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน" เว็บไซต์หาเสียงของไบเดนระบุ ซึ่งเป็นเสมือนคำมั่นสัญญาว่า จะทำให้ชาวอเมริกันทุกคนมีศักดิ์ศรี อีกทั้งสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และส่งเสริมชนชั้นกลาง

  

อ้างอิง : 

- นโยบายเศรษฐกิจของ ‘โจ ไบเดน’