เช็คความจริง 'ทรัมป์' ถูกโกงจริงหรือ?

คะแนนเถื่อน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงข่าวนาน 17 นาทีที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุ

“ถ้าคุณนับคะแนนถูกกฎหมาย ผมชนะสบายๆ ถ้าคุณนับคะแนนเถื่อน พวกเขาสามารถขโมยการเลือกตั้งไปจากเรา”

การนับคะแนนยังคงดำเนินอยู่ ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีพยายามสร้างความแตกต่างระหว่างคะแนนที่ลงในวันเลือกตั้งกับบัตรที่นับทีหลัง

ในรัฐสำคัญหลายรัฐ เช่น เพนซิลเวเนีย ที่ทรัมป์ต้องเอาชนะให้ได้ บัตรที่ลงคะแนนด้วยตนเองถูกนับทันทีหลังปิดหีบวันที่ 3 พ.ย. ทำให้เขานำไบเดนอยู่มาก

แต่เมื่อนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ทรัมป์นำน้อยลง ซึ่งบัตรเลือกตั้งทั้งสองวิธีล้วนถูกต้องตามกฎหมาย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• เปิดกฎ 'เลือกตั้งสหรัฐ' จะเกิดอะไรขึ้น หากต้อง 'นับคะแนนใหม่'

การลงคะแนนทางไปรษณีย์

“ผมพูดเรื่องการลงคะแนนทางไปรษณีย์มานานแล้ว เป็นตัวทำลายระบบของเรา ระบบนี้โกงและทำให้ประชาชนโกงแม้เขาไม่ได้ตั้งใจทำเพราะระบบโกงง่าย” ทรัมป์กล่าว

แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐและผู้สังเกตการณ์นานาชาติกล่าวว่า ไม่มีความผิดปกติ

สหรัฐใช้การลงคะแนนทางไปรษณีย์มานานแล้วตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาด ปีนี้ใช้กันมากโดยผ่านการทดสอบและทดลองอย่างดีมาแล้ว

นายคริสโตเฟอร์ เวรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ เคยให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติวุฒิสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ว่า เอฟบีไอพิจารณาภัยคุกคามการเลือกตั้งทุกด้านอย่างจริงจัง ไม่พบความพยายามทุจริต ไม่ว่าจะทางไปรษณีย์หรือวิธีอื่น

อ้างชัยชนะ

“เรากำลังชนะในทุกรัฐสำคัญ ชนะมหาศาล จากนั้นตัวเลขของเราก็เริ่มหายไปลับๆ อย่างน่าฉงน” ทรัมป์กล่าวและอ้างต่อว่า เขาชนะในรัฐสำคัญอย่างเพนซิลเวเนียและจอร์เจียอย่างท่วมท้น รวมทั้งชนะในมิชิแกน

ทรัมป์นำในทั้ง 3 รัฐอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อคะแนนทางไปรษณีย์มาไบเดนกลับนำมากในมิชิแกน เครือข่ายสหรัฐประกาศให้ไบเดชนะ และกำลังตามมาติดๆในเพนซิลเวเนีย

ส่วนจอร์เจีย รัฐทางภาคใต้ที่ทรัมป์นำอยู่ก็ลดลงเหลือนำแค่ 0.1% ที่เจ้าตัวกล่าวว่า “กรณีนี้พวกเขากำลังพยายามขโมยการเลือกตั้ง พวกเขาพยายามโกงการเลือกตั้ง” แต่ทรัมป์ไม่มีหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตนเอง

ได้คุมวุฒิสภา

“เรารักษาวุฒิสภาไว้ได้ แม้ว่ามีที่นั่งต้องปกป้องมากกว่าเดโมแครตถึง 2 เท่า” ทรัมป์กล่าว แต่คะแนนกำลังนับอยู่ นิวยอร์กไทม์สรายงานข้อมูลเมื่อเวลา 9.30 น. วันนี้ (6 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ทั้งสองพรรคได้ ส.ว. พรรคละ 48 คนเท่ากัน