คนละครึ่ง เฟส 2 ของขวัญปีใหม่ไร้โควิด
มาตรการ "คนละครึ่ง" เฟส 2 ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลในปี 2564 ที่ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้เปิดไฟเขียวแล้ว ขณะนี้กระทรวงการคลังเร่งสรุปแผนให้แล้วเสร็จเดือนหน้า ข่าวดีนี้มาพร้อมๆ กับผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ที่มีความไปแล้วกว่า 90%
ภายหลังบริษัทยา ไฟเซอร์ เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 เฟส 3 ว่าประสบผลสำเร็จมากกว่า 90% ผลที่ออกมาก็คือวัคซีนชนิดนี้สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในคนส่วนใหญ่ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการทดสอบขั้นตอนสุดท้ายก่อนนำออกมาใช้ต่อไป เป็นข่าวดีไปทั่วโลกท่ามกลางการต่อสู้กับโควิดที่มนุษยชาติพ่ายแพ้ กินเวลายาวนานกว่า 6-7 เดือน แม้ประเทศไทยได้ชื่อว่ารับมือได้อย่างดีจนต่างประเทศให้การยอมรับ นำไปเป็นต้นแบบการประคองหน่วงโรค
ทว่าหากประเทศส่วนใหญ่ยังคงวิกฤติ ไทยก็ไม่สามารถก้าวพ้นอันตรายไปได้ ข่าวดีจากไฟเซอร์ เท่ากับการถอดสลักการฟื้นคืนเศรษฐกิจที่มีข้อจำกัดในการเปิดประเทศมาตลอด วันนี้การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจะผ่อนคลายมากขึ้น บรรยากาศการลงทุนและการทำธุรกิจที่น่าจะคลายกังวลลง แต่ยังไงสิ่งที่คนไทยร่วมมือกันมาตั้งแต่เกิดโควิดใหม่ การ์ดอย่าตก ต้องใช้เจลล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยให้เป็นความเคยชิน เพราะกว่าเราจะได้ใช้วัคซีนยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
โมเดลที่น่าสนใจในการเปิดประเทศเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ได้แก่ มาตรการจับคู่หรือทราเวล บับเบิล ของสิงคโปร์กับฮ่องกง ทั้งสองประเทศเปิดให้เดินทางท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวเมื่อไปถึงปลายทาง แต่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางและเมื่อมาถึงปลายทางต้องตรวจโควิดที่สนามบินอีกครั้ง ส่วนประเทศไทยเมื่อโจทย์เปลี่ยน แผนการเดิมที่ตั้งเป้าลดจำนวนวันกักตัวลงมาจาก 14 เป็น 10 และเป็น 7 วัน จะต้องเปลี่ยน เช่นเดียวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ การประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) ที่นัดถกกันสัปดาห์หน้า พิจารณาขยายหรือเพิ่มระยะเวลาโครงการที่ออกไปแล้วสำเร็จ ส่งสัญญาณว่าคนละครึ่งคือโครงการที่อยู่ในข่าย ถือว่าทำถูกต้อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไฟเขียวระหว่างไปเป็นประธานในพิธีเปิดในงานสัมมนา “ภาคธุรกิจไทยในวิถียั่งยืน” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.63) บอกว่ารัฐบาลจะขยายระยะเวลามาตรการคนละครึ่ง เพราะเป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจมาก เห็นได้จากวันเปิดให้ลงทะเบียนในส่วนที่ยังเหลือ 2.4 ล้านสิทธิ ของเฟสที่ 1 เมื่อวานนี้ ยอดลงทะเบียนเต็มทันที กระทรวงการคลังจึงเร่งเปิดเฟสที่ 2 เร่งสรุปแผนให้แล้วเสร็จเดือนหน้า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ของคนไทยในปี 2564
เราเห็นด้วยกับการเปิดเฟส 2 คนละครึ่ง โครงการที่รัฐกับประชาชนร่วมใช้จ่ายให้กับร้านค้าขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ มีกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 10 ล้านคน ช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท ส่วนในเฟสที่ 2 เชื่อว่าข้อมูลเฟสที่ 1 ซึ่งจะครบระยะเวลาโครงการในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จะช่วยให้รัฐบาลกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่าคงเดิมหรือขยายฐานเพิ่ม แต่เรายังเห็นว่ารัฐบาลจะต้องระวังผลข้างเคียงด้วยเช่นกัน อย่าให้โครงการนี้ส่งเสริมพฤติกรรมผิดๆ เพราะจ่ายในราคาครึ่งเดียว ชักจูงให้คนไทยนำเงินอนาคตออกมาใช้ ไม่ใช่แค่การบิดเบือนกลไกตลาด แต่อาจเป็นหนี้หัวโตในวันข้างหน้า ถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้นดั่งหวัง