"Hotel" Sector (24 พ.ย.63)

"Hotel" Sector (24 พ.ย.63)

มองหาโอกาสในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้ว

Event

อัพเดตแนวโน้มกลุ่มโรงแรม

Impact

แนวโน้มราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมจะขึ้นอยู่กับความหวังต่อการฟื้นตัว

หลังจากที่มีเริ่มมีกระแสข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 ออกมาตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วเฉลี่ย 25% สูงกว่าดัชนี SET ที่ขยับเพิ่มขึ้น 10% สำหรับในระยะต่อไป เราคาดว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้จะยังขึ้นอยู่กับความหวังต่อการฟื้นตัวมากกว่าผล
ขาดทุนในระยะสั้น และเชื่อว่ายังมีโอกาสให้เข้าลงทุนได้อยู่สำหรับนักลงทุนระยะยาว

หุ้นทุกตัวมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นใน 4Q63F ยกเว้น MINT

สำหรับภาพในระยะสั้น เราคาดว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวทุกตัวที่เราศึกษาอยู่ ยกเว้น Minor International (MINT.BK/MINT TB)* จะฟื้นตัวดีขึ้น QoQ ใน 4Q63F (Figure 1 ถึง Figure 4) โดยผลประกอบการของ The Erawan Group (ERW.BK/ERW TB), Central Plaza Hotel
(CENTEL.BK/CENTEL TB)* และ Siam Wellness Group (SPA.BK/SPA TB) จะได้อานิสงส์จากการเข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยวในประเทศ ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าผลประกอบการ 4Q63 ของ MINT ในช่วงสั้นจะสะดุดจากการระบาดระลอกสองของ COVID-19 ในยุโรป อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองว่าช่วงที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว เนื่องจากบริษัทดำเนินโครงการประหยัดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และมาตรการ lockdown ที่หลายประเทศในยุโรปบังคับใช้รอบนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบหนักเหมือนสิ่งทีเกิดขึ้นใน 2Q63

เราชอบ SPA ในแง่ที่ราคาหุ้นขยับขึ้นช้ากว่ากลุ่ม และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

เรามอง SPA ว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อสะสม เนื่องจาก i) ราคาหุ้น underperform อยู่ ii) สถานะการเงินแข็งแกร่งกว่า (Figure 6) และ iii) ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี ประกอบกับความเสี่ยงขาลงด้านผลประกอบการต่ำกว่ากลุ่ม (Figure 9)

คงให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight เนื่องจากคาดว่าตลาดจะเปลี่ยนไปให้ความสนใจกับมูลค่าหุ้นในระยะยาวหลังผ่านวิกฤติ COVID-19 ไปแล้ว มากกว่าผลขาดทุนในระยะสั้นที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว โดยในปัจจุบัน เราชอบ SPA มากที่สุด (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท) และเลือกเป็นหนึ่งใน
หุ้นเด่นในกลุ่มโรงแรม รองลงมาคือ MINT (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 32.00 บาท) และ CENTEL (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 31.00 บาท) ในขณะเดียวกัน เรายังมองว่า ERW มีความน่าสนใจน้อยสุดในกลุ่ม (แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท) เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงทางการเงินอยู่

Risks

สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ยืดเยื้อ และปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองไทย