คนไทยฝั่ง 'ท่าขี้เหล็ก' หนีโควิด-19 แจ้งขอกลับ 150 คน
สธ.เผยตรวจรอบแรกสัมผัสเสี่ยงสูง 175 ราย ไม่พบโควิด-19 ระบุสถานการณ์อยู่ในแผนควบคุมโรค ยังไม่พบระบาด มั่นใจไม่แพร่กระจายออกไป คนไทยตกค้างท่าขี้เหล็กแจ้งขอกลับแล้ว 150 คน กำชับทุกจ.ตรวจเข้มพบคนมาจากท่าขี้เหล็กช่วงเดือนพ.ย. แจ้งจนท.ด่วน
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยพบหญิงไทย 10 รายติดโควิด-19จากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และลักลอบเข้าประเทศไทยผิดฎกมายผ่านช่องทางธรรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีประวัติไปใน 6 จังหวัดนั้น ขณะนี้ทั้ง 10 ราย อยู่ในระบบกักกันตัวแล้และสถานการณ์อยู่ในแผนควบคุมโรค ยังไม่พบการระบาด เนื่องจากระบบควบคุมโรคสามารถจัดทำไทม์ไลน์ของแต่ละคนได้ ผู้ป่วยอยู่ในที่ปลอดภัย และติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง-ต่ำได้มีการแจ้งให้เฝ้าระวังตัวเองและผู้ป่อยู่ในที่ปลอดภัย
เพราะฉะนั้น สธ.ประเมินสถานการณ์ว่า จากกรณีนี้ไม่น่ามีปัญหาแพร่กระจายออกไป และหากผลการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในระยะ 7 วันหลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ เป็นลบ ถือว่าควบคุมได้ ผ่าน 10 วันไม่มีคนติดเชื้อเพิ่มถือว่าปลอดภัย และถ้าครบ 14 วัน ไม่พบติดเชื้อเพิ่มถือว่าสถานการณ์จบ
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีคนไทยติดเชื้อมาจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 24 พ.ย. -1 ธ.ค. 2563 จำนวน 10 ราย ขณะนี้ติดตามผู้สัมผัสเสายงสูง 175 คน ผลการตรวจหาโควิด-19 รอบแรก ไม่พบติดเชื้อ แต่จะมีการตรวจซ้ำอีกครั้งในระยะกักตัว 14 วัน ซึ่งหากกลุ่มที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่มีโอกาสติดเชื้อมากที่สุด ปรากฎว่าไม่ติดเชื้อ คนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปโอกาสที่จะติดเชื้อน้อยมาก ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 524 คน ซึ่งได้แจ้งให้สังเกตอาการ รวม 699 คน
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและมีการติดตามอย่างใกล้ชิด จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์มีการประสานขอรายชื่อคนไทยที่ยังตกค้างเพื่อรวบรวมและให้กลับมาประเทศตามช่องทางปกติ เบื้องต้นราว 150 คน ส่วนภายในกลุ่มที่อาจจะลักลอบเข้ามาก่อนหน้านี้ จะต้องตรวจค้นหาให้เจอโดยเร็ว ซึ่งขอความร่วมมือประชาชนทุกคน เจ้าของสถานที่ทุกแห่ง หากพบว่าคนในชุมชนกลับจากประเทศเมียนมา โดยเฉพาะเมืองท่าขี้เหล็กตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2563 เป็นต้นมาให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้อสม.ทั่วประเทศเข้าไปเคาะประตูบ้านตรวจสอบด้วย รวมถึง ที่รพ.หากมีผู้มาขอเข้ารับการตรวจหรือมีอาการให้สอบถามทุกรายว่ามาจากเมืองท่าขี้เหล็กหรือไม่ หากมีประวัติกลับมาจากเมืองดังกล่าวให้ตรวจหาโควิด-19ทุกรายทันที
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ไปร่วมงานฟาร์ม Festival ที่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย ในวันที่ 29 พ.ย.2563 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อไปเที่ยวนั้น หากเป็นคนที่อยู่ในจุดและช่วงเวลาเดียวกับผู้ติดเชื้อ ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ คือ เวลา19.30 น.ไปซื้อตั๋ว เวลา 19.38 น.ไปที่จุดตรวจอาวุธ เวลา 19.41 น. เข้าป่าหลังห้องน้ำบ้านแดง เวลา 19.48 น.เข้างานทางประตูฟาร์มเฟส เข้างานแล้วนั่งโซน C ประมาณแถวที่ 8 โต๊ะที่1-8 (โต๊ะสีเหลือง) สามารถประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)เชียงใหม่ โทร 084-805-3131 หรือ 084-805-2121 หรือ 054-281-027-15, 091-007-2384 หรือ 081-883-0415 และสสจ.เชียงราย โทร 053-910-384, 053-910385
“ขอประชนชนอย่าตื่นตระหนกเพราะจะไม่ช่วยอะไร แต่ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน หลีกเลี่ยงการไปในที่คนแออัด ล้างมือบ่อยๆ สแกนไทยชนะ ซึ่งขณะทุกฝ่ายดำเนินการอย่างเต็มที่ และหากคนไทยช่วยกัน เชื่อว่าจะควบคุมได้ ไม่ระบาด ทั้งนี้ คนไทยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่ต้องกังวล”นพ.โอภาสกล่าว