'ทางหลวง'เร่งปรับแบบมอเตอร์เวย์โคราช คาดแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้
ทล.เร่งสางปมปรับแบบ 17 ตอน สร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน - โคราช คาดแล้วเสร็จภายใน ธ.ค.นี้ ประเมินกรอบวงเงินขอเพิ่มไม่เกิน 6.8 พันล้านบาท ยันไม่กระทบสัญญาบริหารจัดเก็บค่าผ่านทาง หลังเจรจา “บีจีเอสอาร์” ยืนราคาถึง ม.ค.2564
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา M6 ระยะทาง 196 กิโลเมตร (กม.) และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี M9 ระยะทาง 96 กม.โดยระบุว่า ความคืบหน้าของสายบางปะอิน - นครราชสีมา ที่ยังติดปัญหาปรับแบบ ปัจจุบัน ทล.ได้เชิญ 14 หน่วยงาน และอาจารย์จากสถาบันการศึกษา 12 สถาบัน รวมทั้งสภาวิศวกรและวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและบริเวณพื้นที่ที่จะมีการปรับแบบทั้ง 17 ตอน
โดยยึด 4 เหตุผลในการพิจารณาให้เป็นไปตามแผน ประกอบด้วย 1.รูปแบบการประกวดราคาโครงการฯ ปี 2558-2559 ไม่สอดคล้องกับแบบที่วางไว้ในปี 2555 2.สภาพธรณีวิทยาที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ชั้นดินและชั้นหินที่แตกต่างกันออกไป 3.เงื่อนไขการขอใช้พื้นที่ผ่านหน่วยงานต่างๆ ของโครงการ เช่น บริเวณคลองชลประทาน จำเป็นต้องปรับความสูงของสะพานให้มีความยาวเพิ่มขึ้น และ 4.การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินโครงการ
“หากมีการพิจารณาปรับแบบแล้ว ถ้าพบว่าพื้นที่บริเวณใดสามารถปรับลดพื้นที่ได้ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณลงได้ หากได้ข้อสรุปแล้วจะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วเสร็จภายในกลางเดือน ธ.ค.นี้ และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ม.ค. 2564 เพื่อพิจารณาเพิ่มวงเงินในการปรับแบบ”
อย่างไรก็ดี มูลค่างานโยธามอเตอร์เวย์ช่วงบางปะอิน - นครราชสีมา มีการประเมินราคากลางกำหนดอยู่ราว 70,000 ล้านบาท และเอกชนได้ยื่นประกวดราคามาที่ราว 60,000 ล้านบาท จึงทำให้เหลือส่วนต่างงบประมาณอยู่ที่ราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งจากการประเมินวงเงินงานโยธากรณีปรับแบบก่อสร้าง 17 ตอนนั้น คาดว่าจะต้องเสนอขอเพิ่มวงเงินไม่เกิน 6,800 ล้านบาท ดังนั้นในภาพรวมขณะนี้การปรับแบบก่อสร้างจึงไม่กระทบต่องบประมาณโครงการ
นายสราวุธ ยังกล่าวต่อว่า ทล.ยืนยันจะเปิดให้บริการทดลองวิ่งมอเตอร์เวย์บางปะอิน - นครราชสีมา ในช่วงปลายปี 2565 โดยขณะนี้สถานะความก้าวหน้าโครงการอยู่ที่ 92% ส่วนกรณีการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ล่าสุดอัยการสูงสุดได้ตอบกลับการพิจารณาร่างสัญญาแล้ว ซึ่ง ทล.ได้มีการหารือร่วมกับเอกชน คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR อย่างต่อเนื่อง จะมีการแก้ไขร่างสัญญาเอกสารแนบท้าย ปรับแก้ข้อความให้มีความชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งได้หารือถึงการส่งมอบพื้นที่โครงการบ้างแล้ว
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความกังวลเกี่ยวกับการลงนามสัญญาโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน - นครราชสีมา หากการขอวงเงินเพิ่มเติมในการปรับแบบทั้ง 17 ตอนยังไม่เรียบร้อย เกรงว่าอาจจะมีปัญหาในกรณีส่งมอบพื้นที่ ทล.จึงได้รับมอบหมายให้เร่งแก้ไขปัญหาปรับแบบให้แล้วเสร็จ หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการลงนามสัญญา ทำให้ ทล.ต้องหารือร่วมกับ กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR เพื่อยืนราคาในการประมูลโครงการนี้ เบื้องต้นจะยืนราคาถึงสิ้นเดือน ม.ค.2564
“ตอนนี้การปรับแบบก่อสร้างทั้ง 17 ตอน ยังไม่เป็นปัญหากระทบกับการประมูลงานโอแอนด์เอ็มของเอกชน เพราะเราได้หารือร่วมกับเอกชนเพื่อยืนราคาออกไปก่อน และหากติดปัญหาเรื่องการปรับแบบยังไม่แล้วเสร็จก็สามารถขยายระยะเวลาการยืนราคาได้ไม่มีกำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเอกชนด้วย แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะ ทล.จะเร่งให้ได้ข้อสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้
สำหรับโครงการติดตั้งและบริหารระบบเก็บเงิน (O&M) มอเตอร์เวย์บางปะอิน- นครราชสีมา ทล.เปิดประกวดราคาในรูปแบบ PPP gross cost ให้สัมปทานเอกชนระยะเวลา 30 ปี โดยระยะที่ 1 เอกชนต้องออกแบบและติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทาง ระบบจัดการจราจร สร้างอาคารด่าน คาดว่าจะใช้เวลา 3 ปี
ส่วนระยะที่ 2 ต้องบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 30 ปี และจะได้รับค่าตอบแทนหลังเปิดบริการตามวงเงินที่เสนอ โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR เป็นเอกชนที่เสนอราคาต่ำสุด แบ่งออกเป็นมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน – นครราชสีมา ราคากลาง 33,258 ล้านบาท มีการเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 21,329 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 11,929 ล้านบาท
ขณะที่ความคืบหน้าของมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี งานโยธาก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วราว 40% ส่วนการร่างสัญญางานโอแอนด์เอ็ม อยู่ระหว่างรออัยการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และนัดลงนามสัญญากับเอกชนผู้ชนะการประมูล คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ได้ภายในต้นปีหน้า และเป้าหมายเปิดให้บริการภายในปี 2566