สรุปไทม์ไลน์ 4 ติดโควิด-19รายใหม่ ประกาศถึงคน 4 เที่ยวบิน
สรุปไทม์ไลน์ 4 ผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ ติดในประเทศ 1 ราย อีก 3 รายลักลอบจากเมียนมาเข้าไทย ฝั่งแม่สาย 2 ราย แม่สอด 1 ราย สธ.ถึงผู้เดินทาง 4 เที่ยวบิน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด -19 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 14 ราย เป็นผู้เข้ากักตัวในสถานที่กักกัน 10 ราย ส่วนอีก 4 ราย แยกเป็น รายที่ 1 หญิง อายุ 26 ปี เป็นการติดเชื้อจากในประเทศ ในสถานที่กักกันทางเลือก(ASQ) เข้ารักษาตัวในรพ.เอกชน จ.กรุงเทพฯ อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม
รายทื่ 2 หญิง อายุ 26 ปี รักษาที่รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน กรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่
มีผู้ป่วยที่มีความเกี่ยวข้องกับจังหวัดท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา รวม 23 ราย สำหรับกรณีที่มีรายงานว่ามีการติดเชื้อในประเทศ 2 รายนั้น จากการสอบสวนข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ย. หญิงวัย 26 ปี เพิ่งยอมรับว่ามีการเดินทางไปจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ดังนั้นสรุปว่าวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย คือ หญิงอายุ 26 ปี เป็นบุคลากรการแพทย์ที่ทำงานใน ASQ และรักษาตัวในกทม.ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
ไทม์ไลน์ของหญิงอายุ 26 ปี พบว่าเป็นเพื่อนกับชาย (สาวประเภทสอง) อายุ 30 ปี ที่เป็นผู้ป่วยรายงานติดเชื้อภายในประเทศเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ทั้งคู่เพิ่งยอมรับว่ามีการเดินทางไปยังท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทั้งคู่มีไทม์ไลน์ร่วมกันโดยให้ประวัติว่าในวันที่ 6 พ.ย.มีหลักฐานว่าโดยสารเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง วันที่ 6 - 27 พ.ย. ไปสถานบันเทิงท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กลับเข้ามาในประเทศไทยวันที่ 27 พ.ย. โดยพักร่วมกันที่โรงแรมในอ.แม่สาย วันที่ 28 พ.ย.ให้ประวัติไปซื้อของในตลาด (10.00-17.00 น.) ซื้อของประเภทหินทำสร้อย และบ๊วย ส่วนช่วงเย็นเดินถนนคนเดินในอ.แม่สาย
ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เริ่มมีไทม์ไลน์แยกกัน โดยในส่วนของชายอายุ 30 ปี ให้ข้อมูลว่า วันที่ 29 พ.ย. ช่วงเช้าเดินไปวัดพระธาตุดอยเวา ไปกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งในตลาดแม่สาย วันที่ 30 พ.ย. ก่อนเดินทางกลับเริ่มป่วยมีไข้ต่ำๆ พักในโรงแรมถึงช่วงบ่าย จากนั้นเรียกแท็กซี่มาส่งถึงสนามบินเชียงรายโดยใส่หน้ากากตลอด ตอนค่ำเดินทางกลับกทม.สายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL545 เวลา 19.15 น.- 20.00 น. ถึงสนามบินดอนเมือง จากนั้นนั่งแท็กซี่จากสนามบินดอนเมืองกลับบ้าน วันที่ 1-3 ธ.ค. อยู่ที่บ้านตลอด และวันที่ 4 ธ.ค. มารับการตรวจที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน กทม. โดยรถส่วนตัวและตรวจพบเชื้อโควิด 19
ส่วนหญิงอายุ 26 ปี ให้ข้อมูลว่า วันที่ 29 พ.ย. ตอนเช้าไปพระธาตุดอยเวา ตอนค่ำเดินทางกลับถึงกทม.โดยสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบิน WE 137 ใช้บริการแท็กซี่จากสนามบินไปโรงแรมที่กทม. มีการไปร้านสะดวกซื้อใกล้กับโรงแรม จากนั้นวันที่ 30 พ.ย.ถึง 3 ธ.ค.พักในโรงแรมตลอด แต่ก็มีการเดินทางไปที่ร้านสะดวกซื้อด้วย จากนั้นวันที่ 4 ธ.ค.มาเป็นเพื่อนกับผู้ป่วยอายุ 30 ปี ซึ่งขณะนั้นหญิงวัย 26 ปี เริ่มมีอาการป่วย มีน้ำมูก และต่อมาวันที่ 5 ธ.ค. มาตรวจที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนโดยแท็กซี่ตรวจพบเชื้อโควิค 19
“จากการสอบถามทั้ง 2 รายมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่น้อยกว่า 5 ราย และสัมผัสเสียงต่ำอีก 10 กว่ารายส่วนหนึ่งก็จะเป็นผู้สัมผัสที่อยู่ในจังหวัดเชียงราย ก่อนหน้าที่จะเดินทางกลับมากรุงเทพฯ ได้แก่เพื่อน 2 คน เจอตัวแล้ว 1 คนตรวจแล้วไม่พบเชื้อ อีกพื้นที่คือปทุมธานีมีผู้สัมผัส 1 ครัวเรือน อยู่ระหว่างการติดตาม ส่วนยานพาหนะทั้งเที่ยวบิน และแท็กซี่ ทั้งอยู่ที่เชียงรายและกรุงเทพฯ รวมถึงผู้ที่เจอในพื้นที่สาธารณะแต่ไมได้อยู่ใกล้ชิดกัน นั้นผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ให้ข้อมูลว่าสวมหน้ากากอยู่ตลอดเวลาดังนั้นจะมีความเสี่ยงไม่มากนัก”นพ.โสภณกล่าว
รายที่ 3 หญิงไทย อายุ 26 ปี รักษาตัวรพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ติดเชื้อที่รายงานก่อนหน้านี้ และอยู่ในการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ต้น เพราะเป็นกลุ่มที่ลักลอบเข้าประเทศมาพร้อมกับ 2 รายที่ยืนยันติดโควิดไปก่อนหน้านี้
และรายที่ 4 ชายไทย อายุ 70 ปี เข้าประเทศไทยตามเส้นทางธรรมชาติ อ.แม่สอด จ.ตาก รักษาตัวที่รพ.แม่สอด โดยวันที่ 29 พ.ย. ลักลอบเข้าประเทศไทย ช่องทางธรรมชาติ เริ่มมีอาการหวัด พักอาศัยอยู่หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด ลูกเขยเป็นคนดูแล วันที่ 2 ธ.ค. ลูกสาวกลับมาจากกรุงเทพฯมาดูแลผู้ป่วย และวันที่ 4 ธ.ค. มีอาการหอบเหนื่อย เรียกรถรพ.เอกชนมารับที่บ้าน ระหว่างทางอาการไม่ดีขึ้นจึงนำส่งรพ.รัฐ ผลตรวจพบติดโควิด-1 ซึ่งมีผู้สัมผํสเสี่ยงสูง 15 คน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข แจ้งประชาชนที่เป็นผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมากับ 4 เที่ยวบิน ดังนี้
- สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD8717 วันที่ 28 พ.ย. 63 เวลา 13.40 น.
- สายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL533 วันที่ 29 พ.ย. 63 เวลา 10.40 น.
- สายการบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE137 วันที่ 29 พ.ย. 63 เวลา 20.30 น.
- สายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL545 วันที่ 30 พ.ย. 63 เวลา 19.15 น.
ขอผู้โดยสารสังเกตอาการตนเอง เป็นเวลา 14 วัน นับจากวันเดินทาง หากมี ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้โทรแจ้ง 1422 หรือหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้าน และไปรับการตรวจที่ รพ. ใกล้บ้าน โดยสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง จากผู้อื่นๆ ใช้รถส่วนตัว.