'ธนาธร' ประกาศไม่หวั่นพวกระราน แต่อย่าขวางเสรีภาพประชาชน
'ธนาธร' ประกาศไม่หวั่นพวกระราน ยอมรับความเห็นต่างแต่ต้องไม่ขัดขวางเสรีภาพประชาชน ด้าน 'ช่อ' ลงใต้ขอปักธงท้องถิ่นสุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางรณรงค์ช่วยหาเสียงให้กับ นายณชพล พลอาสา ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิษณุโลก เบอร์ 2 โดยขึ้นรถแห่รอบตัวเมือง จากนั้นลงเดินตลาดราษฏร์ธรรมาภรณ์ นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า การเมืองท้องถิ่นที่เราจะสร้าง อันดับแรก คือการต่อสู้กับเผด็จการและอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชนทุกรูปแบบ สอง คือเราจะไม่ซื้อเสียง พวกเราไม่เชื่อเลยว่าการซื้อเสียงจะสร้างการเมืองที่ดีได้ เราอยากจะสร้างการเมืองใหม่ การเมืองที่มีคุณภาพ และจะนำมาสู่ข้อที่ สาม คือจะไม่มีการใช้อำนาจทางการเมือง มาสร้างผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตัวเอง และการเมืองท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มีความสำคัญไม่แพ้การเมืองระดับชาติ งบประมาณ อบจ. พิษณุโลกจากภาษีประชาชนกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี หรือ 1 วาระคือ 4,000 ล้านบาท ชาวพิษณุโลกร่วมกันกำหนดได้ว่าจะให้ใครเป็นผู้บริหารผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ ดังนั้น ตนอยากให้ทุกคนไปใช้สิทธิใช้เสียงกัน และแน่นอนที่สุดการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองก็เป็นเรื่องการเมืองเช่นเดียวกัน
"วันนี้พวกเรามาใช้สิทธิเสรีภาพของเรา สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น สิทธิเสรีภาพในการรณรงค์หาเสียงซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย และแน่นอนที่สุดเราต้องยอมรับความจริงกันว่า ผมไม่สามารถทำให้คนทั้งประเทศรักหรือชอบผมได้ ซึ่งผมยอมรับอย่างสดุดีว่า มีคนที่ไม่สนับสนุนพวกเราอยู่ในสังคม นี่คือเรื่องพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ ก็คือการเคารพสิทธิเสรีภาพของกันและกัน ใครไม่ชอบคณะก้าวหน้าก็สามารถไปเดินตลาดรณรงค์เหมือนที่ผมทำ การที่จะได้มาสักหนึ่งเสียงเราต้องขึ้นรถแห่ เดินตลาด ไปเล่าความคิดของเราให้ประชาชาฟัง ต้องไปเคาะประตูบ้านเพื่ออธิบายแนวอุดมการณ์ของพวกเรา ดังนั้น ผมอยากขอให้คนที่ไม่ชอบผม ทำแบบเดียวกับผม แต่อย่ามาระรานสิทธิในการรณรงค์หาเสียงของผม และที่สำคัญอย่ามาระรานสิทธิของประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย" นายธนาธร กล่าว
ขณะที่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางร่วมรณรงค์ช่วยหาเสียงให้กับนายพงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี เบอร์ 7 โดยเริ่มต้นกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้าด้วยการเดินพบปะประชาชนที่ชุมชนตลาดล่าง และตลาดโพหวาย ตลาดสดขายส่งของจังหวัด นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเลือกตั้งนายก อบจ. ซึ่งวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันสำคัญ ที่จะกำหนดอนาคตของคนสุราษฎร์ธานี้ วันนี้ตนและผู้สมัครนำนโยบายที่จะพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานีมานำเสนอ เราอยากเห็นสุราษฎร์ธานีก้าวไปข้างหน้า อยากเห็นอนาคตที่สดใสของลูกหลานของเรา เราขอโอกาสทำงานนั้น 20 ธันวาคมนี้ ขอให้ให้ทุกคนสละเวลา 10 นาที เดินเข้าคูหาอย่างกล้าหาญ เพื่อกำหนดอนาคตใหม่ที่ดีกว่าให้กับคนสุราษฎร์ธานี ในอีก 4 ปี ข้างหน้า โรงพยาบาลที่ดี การศึกษาที่ดี เศรษฐกิจที่ดี รอท่านอยู่
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ระบุว่า งบประมาณ อบจ. สำหรับบริหารจัดการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีจำนวน 1,374 ล้านบาทต่อปี คณะก้าวหน้ามีนโยบายพัฒนาจังหวัดแห่งนี้ 3ด้าน 1.การศึกษาเป็นเลิศ อบจ.สุราษฎร์ธานี มีโรงเรียนในสังกัด 3 แห่ง เราจะผลักดันให้โรงเรียน อบจ.ทัดเทียมกับโรงเรียนในเมือง เพื่อลดภาระด้านการเดินทาง และความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาหมดลง ส่งเสริมหลักสูตรทางวิชาการและสันทนาการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา หรือภาษา ต้องได้มาตราฐาน 2. พัฒนาโรงพยาบาลของ อบจ. ให้เป็นศูนย์การแพทย์ที่ได้มาตราฐาน พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องรอคิวนาน ไม่ต้องเดินทางเข้าไปรักษาตัวถึงในเมือง มีบุคลากรที่เชียวชาญ เกิดการจัดจ้างงานในชุมชน และ3. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับเกาะลำพู เกาะกลางแม่น้ำตาปี ให้เป็นสวนสาธารณะที่ทันสมัย ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกวัย