'คนละครึ่งเฟส 2' เปิดลงทะเบียน 16 ธ.ค.นี้! 5 ล้านสิทธิ - เพิ่มสิทธิ 'เราเที่ยวด้วยกัน' อีก 1 ล้านคน

สองมาตรการใหญ่จากภาครัฐที่หวังออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย คือ มาตรการ "คนละครึ่ง เฟส 2" เนื่องจากกระแสตอบรับของประชาชนเป็นไปในทิศทางที่ดี จึงมีการขยายสู่เฟส 2 เปิดให้ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิดังกล่าว เข้ามาลงทะเบียนใหม่ รวมทั้งหมด 5 ล้านสิทธิ โดยครั้งนี้มีการเพิ่มเงื่อนไขสำคัญๆ ได้แก่ เพิ่มวงเงินตลอดมาตรการเป็น 3,500 บาท/1 สิทธิ และสามารถใช้สิทธิได้สูงสุด วันละ 150 บาท/สิทธิ ในเงื่อนไข รัฐออก 50% และจ่ายเอง 50% 

นอกจากนี้ในกลุ่มคนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ "คนละครึ่ง" เฟสแรกมาแล้ว รัฐก็ขยายวงเงินรวมเป็น 3,500 บาท/1 สิทธิเช่นกัน โดยจากเดิมได้วงเงินรวมไปแล้ว 3,000 บาท เฟส 2 จะได้รับเงินเพิ่มอีก 500 บาท โดยเงื่อนไขยังคงเดิม คือ จ่ายคนละครึ่ง ส่วนผู้ที่ยังใช้เงินในเฟสแรกไม่หมด รัฐก็จะทบเงินให้ไปใช้ต่อในเฟส 2 ด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• 'คนละครึ่งเฟส 2' ลงทะเบียน 3 เทคนิค รับ 3,500 บาทให้ทัน 5 ล้านสิทธิ์
• 'คนละครึ่งเฟส 2' เปิดลงทะเบียน 16 ธ.ค.นี้! 5 ล้านสิทธิ - เพิ่มสิทธิ 'เราเที่ยวด้วยกัน' อีก 1 ล้านคน
• 'คนละครึ่งเฟส 2' เปิด 3 ขั้นตอน กดยืนยันรับเงินเพิ่ม 500 บาท สำหรับผู้มีสิทธิเฟส 1
• 'คนละครึ่งเฟส 2' ลงทะเบียนตาม 7 ขั้นตอนนี้ ได้เงินเข้า 'เป๋าตัง' ช้อปได้ 3,500 บาท
• สรุป! 'วันหยุด' เดือนธันวาคม 2563 เหลือกี่วัน มีหยุดยาวช่วงไหน?

ทั้งนี้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 สำหรับผู้ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน หรือผู้ที่เคยลงทะเบียนในเฟสแรกแต่ไม่ผ่าน สามารถเข้ามาลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบสิทธิทั้งหมด 5 ล้านสิทธิ ส่วนผู้ที่เคยได้รับสิทธิในเฟสแรกนั้น ในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เริ่มเข้ามากดยืนยันเพิ่มรับสิทธิเฟส 2 ต่อไปเช่นกัน โดยเข้าไปที่แอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" ที่ใช้สำหรับการใช้จ่ายซื้อสินค้า 

หลังจากนั้นจะสามารถเริ่มใช้สิทธิมาตรการ "คนละครึ่ง เฟส 2" ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 

ขณะที่อีกหนึ่งมาตรการสำคัญ คือ "เราเที่ยวด้วยกัน" มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อหวังให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ หลังจากภาคการท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญวิกฤติโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยมาตรการนี้รัฐบาลได้ขยายสิทธิเช่นกัน โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญๆ ได้แก่ 

1.เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน โดยจำนวนห้องที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะ E-voucher แต่ไม่อุดหนุนค่าที่พัก ซึ่งในจำนวน 1 ล้านสิทธิที่เพิ่มในครั้งนี้ จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 เม.ย.2564 

2.ปรับปรุงให้สิทธิการจองห้องพัก จากเดิมประชาชนใสามารถจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืนต่อสิทธิ รอบใหม่ได้เพิ่มเป็น 15 คืนต่อสิทธิ

3.ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเดิม 06.00 - 21.00 น. รอบใหม่ขยายเวลาเป็นตั้งแต่ 06.00 - 24.00 น. 

4.เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้ร่วมโครงการได้

5.อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวใช้ระบบคูปองออนไลน์ (E-Voucher) ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ โดยต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่หน่วยงานในสังกัดภาครัฐ  

6.ปรับปรุงเกณฑ์สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อสิทธิ จากเดิมรัฐสนับสนุน 40% แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อสิทธิ แต่เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ภาคท่องเที่ยวพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง ทั้งหมด 7 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย

7.กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งต้องมีการแสดงหลักฐาน