เช็ครายชื่อ! ประเทศไหนเริ่มฉีด ‘วัคซีนโควิด-19’ แล้วบ้าง?
ขณะนี้ หลายประเทศทั่วโลกเริ่มโครงการฉีด “วัคซีนต้านโควิด-19” ให้สาธารณชนกันแล้ว รวมถึงประเทศยักษ์ใหญ่ เช่น สหรัฐ จีน รัสเซีย และสหราชอาณาจักร กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ชวนสำรวจรายชื่อประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนไปแล้ว (ณ วันที่ 30 ธ.ค. 63)
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังรอการส่งมอบวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท “แอสตร้าเซนเนก้า” ล็อตแรกจำนวน 26 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะมาถึงเร็วที่สุดภายในกลางปี 2564 หลายประเทศทั่วโลกเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนกันแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมสูงตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไป
รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกที่เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. โดยกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนชื่อ “สปุตนิก-วี” (Sputnik-V) ที่พัฒนาโดยทีมแพทย์รัสเซีย คือบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และจะทยอยฉีดให้ประชาชนอายุระหว่าง 18-60 ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จนถึงขณะนี้มีชาวรัสเซียได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 1 แสนคน
ส่วนพลเมืองอายุ 61 ปีขึ้นไปต้องรอให้วัคซีนตัวนี้ผ่านการทดสอบกับอาสาสมัครช่วงอายุเดียวกันก่อน ทำให้จนถึงขณะนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน วัย 68 ปียังไม่ได้รับวัคซีนโควิด แต่กระทรวงสาธารณสุขรัสเซียยืนยันว่า วัคซีนสปุตนิก-วี ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพต่อทุกกลุ่ม และจะอนุมัติการใช้วัคซีนโควิดสำหรับกลุ่มอายุ 61 ปีขึ้นไปเร็ว ๆ นี้
วันที่ 8 ธ.ค. สหราชอาณาจักร เป็นประเทศแรกที่ของโลกที่รับรองและเริ่มฉีดวัคซีนของ “ไฟเซอร์-ไบออนเทค” ให้กับประชาชนกลุ่ม “เสี่ยงสูง” เช่น ผู้สูงอายุและบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า จนถึงขณะนี้มีประชาชนได้รับวัคซีนตัวนี้ไปแล้วประมาณ 8 แสนคน
นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังเป็นประเทศแรกที่รับรองวัคซีนของ "แอสตร้าเซนเนก้า/ออกซ์ฟอร์ด" เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. และจะเริ่มฉีดวัคซีนตัวนี้ให้ประชาชนวันที่ 4 ม.ค. 2564
- สหภาพยุโรป (อียู)
วันที่ 26-27 ธ.ค. สหภาพยุโรป (อียู) ที่มีสมาชิก 27 ประเทศ ซึ่งรวมถึงเยอรมนี เบลเยียม ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี เริ่มทยอยฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคให้ประชาชน โดยพลเมืองกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเฟสแรกคือกลุ่ม “เสี่ยงสูง” เนื่องจากจำนวนวัคซีนมีจำกัด
อียูจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคล็อตแรกราว 12.5 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2563 และตั้งเป้าฉีดให้ประชาชน 450 ล้านคนใน 27 ประเทศสมาชิกภายในสิ้นปี 2564 และนอกเหนือจากวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคที่เริ่มฉีดไปแล้ว อียูยังเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนโควิดของ “โมเดอร์นา” และ “แอสตร้าเซนเนก้า” ด้วย
ส่วนเนเธอร์แลนด์ หนึ่งในสมาชิกอียู ประกาศจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2564
ขณะที่ประเทศนอกอียู เช่น สวิตเซอร์แลนด์และเซอร์เบียเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วเช่นกัน โดยสวิตเซอร์แลนด์เริ่มฉีดให้ประชาชนเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. หลังจากรับรองวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค ส่วนเซอร์เบียเริ่มฉีดให้ประชาชนเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.
ไอซ์แลนด์ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคล็อตแรกเกือบ 10,000 โดสเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. และเริ่มฉีดให้ประชาชนในวันที่ 29 ธ.ค. โดยกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนคือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและพนักงานบ้านพักคนชรา
- ทวีปอเมริกา
ในสหรัฐซึ่งมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลก มีชาวอเมริกันกว่า 1 ล้านคนได้รับวัคซีนต้านโควิด ตั้งแต่รัฐบาลเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.
นอกเหนือจากวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคแล้ว ทางการสหรัฐยังรับรองวัคซีนของโมเดอร์นาด้วย
ขณะที่แคนาดาเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. และคาดว่าจะได้รับวัคซีน 1.2 ล้านโดสจากไฟเซอร์-ไบออนเทคและโมเดอร์นาภายในสิ้นเดือน ม.ค. 2564
ส่วนเม็กซิโกเริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้พลเมืองเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. และอาร์เจนตินาได้รับรองวัคซีนสปุตนิก-วีของรัสเซียสำหรับการใช้กรณีฉุกเฉินเมื่อไม่นานนี้
- ทวีปเอเชีย
ทางการจีนเริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนคือ แรงงานในกิจการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันและกลุ่มอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง
ภายในกลางเดือน พ.ย. มีชาวจีนราว 1 ล้านคนได้รับวัคซีนโควิดซึ่งพัฒนาโดยบริษัทยาในประเทศ และปัจจุบัน จีนมีวัคซีนที่อยู่ในขั้นตอนทดสอบทางคลินิกระยะสุดท้ายอย่างน้อย 5 ตัว รวมถึงของบริษัทซิโนวัค ไบโอเทค และซิโนฟาร์ม
ในแถบตะวันออกกลาง ทั้งบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้รับรองวัคซีนโควิดของซิโนฟาร์มเมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค.
ในสิงคโปร์ กระทรวงสาธารณสุขเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่การแพทย์กลุ่มแรกจากศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติ (NCID) เข้ารับวัคซีนในช่วงเช้าวันที่ 30 ธ.ค.
เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ มากกว่า 30 คน อาทิ เจ้าหน้าที่คลินิก พยาบาล สหเวชศาสตร์ เจ้าหน้าที่ดูแลและธุรการ ทยอยเข้ารับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ฯ ระบุว่าบุคลากรที่เหลือ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากกลุ่มการดูแลสุขภาพแห่งชาติ (NHG) จะได้รับวัคซีนตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 เป็นต้นไป
ขณะที่อินเดีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดอันดับ 2 ของโลก มีแผนฉีดวัคซีนสปุตนิก-วีของรัสเซียภายในปีหน้า ส่วนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เตรียมเริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุดในเดือน ก.พ. 2564
---------------------
อ้างอิง: Al-Jazeera, DW