เช็ค! วัคซีน 'โควิด-19' เข้าไทย 3 ล็อต ใครได้สิทธิ์บ้าง

เช็ค! วัคซีน 'โควิด-19' เข้าไทย 3 ล็อต ใครได้สิทธิ์บ้าง

'โฆษกรบ.'เผย วัคซีนโควิด เริ่มเข้าไทย ก.พ.นี้ เข็มแรกให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามพื้นที่ควบคุมสูงสุด-กลุ่มเสี่ยง-ภาวะแทรกซ้อน  

 5 ม.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้รับทราบถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม ในกรณีเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันจากทางด้านบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะจัดหาวัคซีน จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนที่จะได้รับการอนุญาตเข้ามาใช้กับคนไทยจะต้องขึ้นทะเบียนจากอย.ของประเทศจีน และเมื่อผ่านประเทศจีนแล้วต่องนำมาให้อย.ของไทยอนุมัติด้วย โดยในส่วนที่จะนำเข้ามาจะเป็นทางด้านองค์การเภสัชกรรมที่จะดำเนินการและจะให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและกระจายไปสู่ประชาชนทั่วไป  ตอนนี้ได้มีวงเงินจัดสรร 1,228 ล้านบาทในการจัดหาจำนวนวัคซีน 2 ล้านโดสเข้ามาโดยเร็วเป็นการเร่งด่วน 

160984506864

นายอนุชา กล่าวต่อว่า โดยจำนวน 2 แสนโดสแรก จะนำเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะสามารถส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลต่างๆเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ที่มีการควบคุมสูงสุด เช่น จ.สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง เป็นต้น ประมาณ 2 หมื่นคน และกลุ่มเสี่ยงที่มีการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่นๆประมาณ 1.8 แสนคน

สำหรับวัคซีนต่อมาจะได้รับในเดือนมีนาคม 2564 ประมาณ 8 แสนโดสโดยจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มที่ 1 จำนวน 2 แสนโดส ส่วนอีก 6 แสนโดสจะฉีดในกลุ่มจังหวัดที่ควบคุมสูงสุดและชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้ และบุคคลากรทางการแพทย์อื่นๆ รวมทั้งอสม.ด้วย  ประมาณ 6 แสนคน และกลุ่มที่ติดเชื้อที่มีภาวะแทรกซ้อนสูง  กลุ่มจำเป็นอื่นๆอีกประมาณ 5.4 แสนคน 

นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนเดือนเมษายน 2564 จะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้านโดส โดยจะฉีดเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มที่ฉีดไปแล้ว 8 แสนโดสแรก จำนวน 6 แสนคน ส่วนอีก 4 แสนโดสจะให้กับบุคลากรอื่นๆเพิ่มเติม ดังนั้น 2 ล้านโดสแรกที่จะได้เข้ามาในปี 2564 เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป สำหรับประชาชน 1 คน จะต้องได้รับการฉีด จำนวน 2 โดส ส่วนที่ประเทศไทย ได้จองซื้อวัคซีน จำนวน 26 ล้านโดสไปแล้วจากบริษัท Astra Zeneca คาดว่าจะนำเข้ามาได้เพื่อให้คนไทยได้ใช้ประมาณ กลางปี 2564 และวันนี้ทางนายกฯได้อนุมัติเพิ่มเติมจัดหาซื้อวัคซีนอีก 35 ล้านโดส เพื่อคุ้มครองคนไทยได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด เท่ากับว่ารวมแล้วเราจะมีวัคซีน 63 ล้านโดสให้ประชาชน