BBL - ซื้อ
ฟื้นตัวได้เร็วกว่าธนาคารอื่น ๆ
Event
อัพเดตแนวโน้ม
lmpact
กำไรจากการลงทุนจะช่วยหนุนผลประกอบการใน 4Q63F
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BBL ใน 4Q63F จะอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท (+39% QoQ, -30% YoY) และกำไรสุทธิปี 2563 จะอยู่ที่ 2.04 หมื่นล้านบาท (-43% YoY) โดยเราใช้สมมติฐานว่า กำไรจากการลงทุน และกำไรจากการปรับมูลค่าเหมาะสมของการลงทุนในงบ P/L (FVTPL) จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งนี้ BBL ได้ขยายพอร์ตการลงทุนอย่างหนักในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
คาดว่าจะมีกำไรจากการลงทุน 4.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว QoQ)
BBL บันทึกกำไรจากการปรับมูลค่าเหมาะสมของการลงทุน (FVTPL) 7 พันล้านบาทใน 2Q63 (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพอร์ตการลงทุนในหุ้น) แต่บันทึกกำไรในส่วนนี้ลดลงเหลือ 2.5 พันล้านบาทใน 3Q63 ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดทุนและตลาดพันธบัตรวิ่งแรงในไตรมาสสุดท้าย เราจึงคาดว่า BBL จะบันทึกกำไรก้อน
โตจากธุรกิจการลงทุน โดยเราคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว QoQ เป็น 4.5 พันล้านบาท
คุณภาพสินทรัพย์ – สำรองหนี้เสีย (LLR) สูงที่สุดในกลุ่ม ซึ่งจะทำให้รองรับ shock ในแง่คุณภาพสินทรัพย์ได้
BBL ได้เตรียมส่วนรองรับหนี้เสียเอาไว้ก้อนใหญ่ โดยกำหนด credit cost ไว้ในระดับสูงในช่วงที่ COVID-19ระบาดเพื่อรองรับ NPLs ที่อาจจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สัดส่วน NPL coverage ที่ >180% ทำให้สถานะเงินทุนของ BBL แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ซึ่งจะทำให้รองรับ shock ในแง่คุณภาพสินทรัพย์ได้ ทั้งนี้ หากใช้สมมติฐาน NPL coverage ที่ 100% ยอดสำรองหนี้เสียในปัจจุบันของ BBL สามารถรองรับ NPLs เพิ่มได้อีกถึง 70%
คงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2564F ที่ 160 บาท อิงจาก P/BV ที่ 0.65x
คุณภาพสินทรัพย์ของ BBL และผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าธนาคารอื่น ๆ ถ้าหาก COVID-19 ระบาดหนักในประเทศ ในขณะที่ ผลการดำเนินงาน และ ROE ก็น่าจะฟื้นตัวได้ดีกว่าธนาคารอื่น ๆ เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นในปี 2564 ทั้งนี้ เนื่องจาก BBL มีการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่ประสบปัญหาจาก COVID-19 ต่ำที่สุดในกลุ่ม และสัดส่วน LLR/สินเชื่อก็สูงที่สุดในกลุ่ม BBL จึงน่าจะมีช่องให้ cool off ได้เมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลงไป นอกจากนี้ BBL ยังอาจจะได้อานิสงส์จากวัฎจักรการลงทุนรอบใหม่ของธุรกิจขนาดใหญ่หลังจากที่วิกฤติ COVID-19 ผ่านพ้นไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ธนาคารในเครือที่อินโดนีเซียก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเมื่อใช้ P/BV ที่ 0.65x เรายังคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 160.00 บาท
Risk
GDP ไม่ฟื้น และ NPLs เพิ่มขึ้น >50% ในปี 2564