เปิดภาระหนี้ 3 ก้อนใหญ่ กทม.จ่อล้มละลายปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว
เปิดตัวเลขหนี้กทม.ต้องแบกรับภาระรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้หนี้ 3 ก้อนใหญ่ทั้งหนี้งานโยธา งานระบบ และค่าจ้างเดินรถ ทำ กทม.แบกหนี้ทะลุ 1 แสนล้านบาท เร่งหาทางออกต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว
รายงานข่าวแจ้งว่า การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวระยะเวลา 30 ปี ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส ที่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งจะทำให้ กทม.ต้องแบกรับภาระหนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท หากไม่มีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกทม.ไม่มีเงินที่จะนำมาจ่ายหนี้ดังกล่าว ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นองค์กรล้มละลาย
ทั้งนี้ หนี้ที่กทม.จะต้องแบกรับภาระแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1.หนี้งานโยธาและดอกเบี้ยถึงปี 2572 ที่กทม.ต้องรับมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เป็นเงินต้น 55,704 ล้านบาท ดอกเบี้ย 13,401 ล้านบาท รวม 69,105 ล้านบาท
2.หนี้ค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล 20,248 ล้านบาท ที่กทม.ต้องจ่ายให้บีทีเอส และมีกำหนดจ่ายภายในเดือนมีนาคม 2564 นี้
3.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 9,377 ล้านบาท โดยเป็นค่าจ้างเดินรถเฉลี่ยประมาณเดือนละ 600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากมีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป 30 ปี นอกจากจะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดทั้งเส้นทางตั้งแต่สมุทรปราการถึงคูคต รวมระยะทาง 68 กิโลเมตร 59 สถานี ถูกลงจาก 158 บาท เหลือไม่เกิน 65 บาทแล้ว
โดยจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ กทม.ไม่ต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนใหญ่ที่จะถูกโอนหนี้ทั้งหมดไปให้บีทีเอสรับผิดชอบ และหลังจากที่มีการต่อสัญญาสัมปทานออกไป 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2572 บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้ให้กทม.ตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้มากกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งกทม.จะต้องเร่งหาทางออกเรื่องดังกล่าวกับรัฐบาลในการ่วมกันแก้ไขปัญหา