กสร. ช่วยลูกจ้างกระทบโควิดกว่า 2,900 คน รวม 264 ล้านบาท
สุชาติ แจง กสร.ช่วยลูกจ้างกระทบโควิด-19 กว่า 2,900 คน ให้ได้รับเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 264 ล้านบาท
วันนี้ (9 มกราคา 2564) สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แจงผลงาน กสร. ทวงสิทธิช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกบริษัทเลิกจ้างกะทันหันจากโควิดรอบก่อน ติดตามเงินค่าจ้างให้ลูกจ้างวิงสแปมไปแล้วกว่า 258 ล้านบาท และอนุมัติจ่ายเงินช่วยเหลือลูกจ้าง ยูนิสัน แพน (เอเซีย) จากเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง อีกกว่า 6.7 ล้านบาท
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตนยังคงมีความห่วงใยถึงการช่วยเหลือลูกจ้างจำนวนมากที่ถูกบริษัทเลิกจ้างกะทันหันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบก่อน อาทิ บริษัท วิงสแปน เซอร์วิสเซส จำกัด ที่เลิกจ้างลูกจ้างจำนวน 2,500 คน บริษัท ยูนิสันแพน (เอเชีย) จำกัด เลิกจ้างลูกจ้าง จำนวน 658 คน และขณะนี้การแพร่ระบาดระลอกใหม่ มีแนวโน้มจะกระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะซ้ำเติมลูกจ้างได้อีกหากยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งรัด ติดตามการช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิลูกจ้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับสิทธิอย่างครบถ้วนและรวดเร็ว เพราะปัญหาค่าใช้จ่ายในเรื่องความเป็นอยู่ และปากท้องของแรงงานในปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมได้ติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท วิงสแปน เซอร์วิสเซส จำกัด โดยได้ดำเนินการประสาน บริษัท วิงสแปนฯ จำกัด และผู้ทำแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทราบว่านายจ้างได้นำ แคชเชียร์เช็คมาจ่ายให้กับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างแล้วจำนวน 2,441 คน รวมเป็นเงิน 258,309,031.87 บาท และยังคงมีลูกจ้างที่ยังไม่ได้มารับแคชเชียร์เช็คอีกจำนวน 59 คน ซึ่งกรมได้แนะนำให้บริษัทฯ โอนเงินตามสิทธิที่ลูกจ้างพึงจะได้รับเข้าบัญชีธนาคารตามรายชื่อของลูกจ้างทั้ง 59 คนแล้ว
สำหรับลูกจ้างบริษัท ยูนิสัน แพน (เอเซีย) จำกัด ที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงานภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งกรมได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายจ้างฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 แล้ว และได้อนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กรณีนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายเงินค่าชดเชยให้ลูกจ้างจำนวน 426 คน เป็นเงินจำนวน 6,743,750 บาท ซึ่งมีลูกจ้างมายื่นขอรับเงินกองทุนสงเคราะห์ฯ แล้ว จำนวน 175 คน เป็นเงินจำนวน 2,713,750 บาท
ในขณะที่มีลูกจ้างจำนวน 252 คน ได้ทำสัญญากับนายจ้างที่ยื่นข้อเสนอว่าจะจ่ายเงินค่าชดเชย และค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ลูกจ้างพอใจ และได้ลงลายมือชื่อไว้ในสัญญาเพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนลูกจ้างที่ยังไม่ได้เข้ามายื่นขอรับเงินกองทุนฯ กรมจะได้ประสานให้ลูกจ้างเข้ามารับเงินดังกล่าวต่อไป