รวมมาตรการ 'ออมสิน' และ 'ธ.ก.ส.' ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ 'โควิด-19' รอบใหม่
รวมมาตรการจากธนาคาร 'ออมสิน' และ 'ธ.ก.ส.' ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ 'โควิด-19' หลังการระบาดรอบใหม่
เปิดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ จากธนาคาร "ออมสิน" และ "ธ.ก.ส." เพื่อช่วยลดภาระของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด-19"
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมรายละเอียดมาตรการการช่วยเหลือของธนาคาร "ออมสิน" และ ธนาคารเพื่อการเกษตรสหกรณ์การเกษตร หรือ "ธ.ก.ส." สำหรับลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร รวม 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการพักชำระหนี้ของธนาคารออมสิน 2) โครงการลดภาระหนี้ของ ธ.ก.ส. และ 3) โครงการชำระดีมีคืนของ ธ.ก.ส. ซึ่งมีเงื่อนไข และรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข่าวที่น่าสนใจ :
- สรุปครบ ‘เงินเยียวยา’ ล่าสุด! มาตรการ ‘เยียวยาโควิด’ รอบ 2 มีอะไรบ้าง ใครได้สิทธิ เช็คที่นี่
- เช็คที่นี่! เปิดรายละเอียด 'เยียวยาโควิด' ลดค่าไฟ-น้ำประปา 2 เดือน
1) โครงการ "พักชำระหนี้" ของธนาคารออมสิน
มาตรการ "พักชำระหนี้" เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่สีแดง 28 จังหวัดเสี่ยง "โควิด-19" เพื่อลดภาระของลูกหนี้ธนาคารออมสิน โดยเปิดให้ลงทะเบียนวันแรกเมื่อ 8 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้นธนาคารจะพิจารณาให้ลูกค้าสามารถขอพักชำระเงินต้นไว้ก่อน โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย หรือขอลดการจ่ายดอกเบี้ยบางส่วนได้ แล้วแต่กรณีขึ้นอยู่กับความหนักเบาของผลกระทบที่ได้รับ ซึ่งมาตรการครั้งนี้มีระยะเวลา 3-6 เดือน โดยเงื่อนไขของโครงการ มีดังนี้
1. เป็นลูกค้าในพื้นที่สีแดง 28 จังหวัดที่เสี่ยง "โควิด-19" สูง กรณีประกอบอาชีพใน 28 จังหวัด แต่บัญชีเงินกู้อยู่นอกพื้นที่ ลงทะเบียนไม่ได้ ให้ติดต่อสาขาเจ้าของบัญชีเงินกู้
2. เอกสารที่ต้องเตรียม สำเนาบัตรประชาชน, หลักฐานแสดงรายได้ปกติ/รายได้หลังได้รับผลกระทบ, รูปถ่ายหรือหลักฐานที่ระบุว่าได้รับผลกระทบ
3. ลงทะเบียนในเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือ คลิกที่นี่ จากนั้นกรอกข้อมูล และรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 14 วัน
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ "ศูนย์ข้อมูลข่าวสารธนาคารออมสิน" หมายเลข 1115
2) โครงการ "ลดภาระหนี้ สำหรับหนี้ NPL หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน" ของ "ธ.ก.ส."
โครงการสำหรับลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีหนี้เสีย (NPL) หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน ที่จะได้รับสิทธิในการลดภาระหนี้ ด้วยการให้เงินคืนดอกเบี้ยตามดอกเบี้ยที่ชำระจริง ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ดังนี้
- ลูกค้าเกษตรกรและบุคคล รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
- กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง (ยกเว้นสหกรณ์นอกภาคเกษตรและองค์กร) รับเงินคืน 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
- ระยะเวลาโครงการ 1 ธันวาคม 2563-31 มีนาคม 2564
3) โครงการ "ชำระดีมีคืนสำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติ"
โครงการสำหรับลูกค้าที่มีเงินกู้ปกติ ไม่มียอดค้างชำระ เมื่อมาชำระหนี้ที่ ธ.ก.ส. ก็รับเงินคืนตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
- ลูกค้าเกษตรกรและบุคคล รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริงแต่ไม่เกิน 5,000 บาท ต่อราย
- กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง (ยกเว้นสหกรณ์นอกภาคเกษตรและองค์กร) รับเงินคืน 10% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ต่อราย
- ระยะเวลาโครงการ 1 ธันวาคม 2563-31 มีนาคม 2564 วงเงิน 3,000 ล้านบาท แล้วเเต่เงื่อนไขใดจะสิ้นสุดก่อน
ทั้งนี้ โครงการ "ชำระดีมีคืนสำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติ" และ "ลดภาระหนี้ สำหรับหนี้ NPL หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน" ของ "ธ.ก.ส." จะมีกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ คือ ผู้กู้สัญญากู้ตามโครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาลสหกรณ์นอกภาค องค์กร และสัญญาเงินกู้ที่ ธ.ก.ส. กำหนด เช่น สินเชื่อตามข้อบังคับฉบับที่ 35 ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
สำหรับที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร 02 555 0555