บีเอ็มฯ ปรับโฉม 'ซีรีส์ 5' เคาะราคา 2.99-3.73 ล้าน

บีเอ็มฯ ปรับโฉม 'ซีรีส์ 5' เคาะราคา 2.99-3.73 ล้าน

เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ขยายกระจังหน้า เพิ่มออปชั่น ส่ง 2 ทางเลือกขุมพลัง "ดีเซล-ปลั๊กอิน ไฮบริด"

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัว ซีรีส์ 5 รุ่นปรับโฉม หรือ LCI (Life Cycle Impulse) มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และปลั๊ก-อิน ไฮบริด รวม 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย

  • "520d M Sport" ราคา 3,539,000 บาท
  • "530e Elite" ราคา 2,999,000 บาท
  • "530e M Sport" ราคา 3,739,000 บาท

โดยทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ครอบคลุมการบำรุงรักษา 3 ปี / 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง

"อเล็กซานเดอร์ บารากา" ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดพรีเมียม ด้วยโฉมใหม่ของ ซีรีส์ 5 ที่ดีไซน์โฉมใหม่ตลอดคันจากด้านหน้าไปจนถึงท้ายรถ เช่น กระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% รูปทรงแปดเหลี่ยมแบบใหม่ ยาวลงมาบรรจบกับกันชนหน้า ล้อมด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ส่วนบนของซี่ในกระจังหน้ายื่นออกมาเล็กน้อย สร้างมิติที่สอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED ช่องดักอากาศแนวตั้งทั้ง 2 ข้างบนกันชนหน้า

ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L โดยทั้งไฟท้ายและไฟเบรกไดออกแบบมาให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมู 2 ด้านที่รวมเป็นส่วนหนึ่งของกันชนท้าย

161114723339

161114723212

ตัวรถยาว 4,963 มิลลิเมตร ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน (Cd) 0.23 มาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น 520d M Sport และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Y-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้ว สำหรับรุ่น 530e M Sport ขณะที่รุ่น 530e Elite มาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke

161114723649

520d M Sport ใช้เครื่องยนต์ "ดีเซล 4 สูบ ทวินเทอร์โบ" ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที อัตราร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.5 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ส่วน 530e Elite และ 530e M Sport ใช้เครื่องยนต์ "เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร" ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000 - 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 - 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบ XtraBoost ซึ่งให้กำลังเสริม 40 แรงม้า ภายในเวลา 10 วินาทีเมื่อขับขี่ในโหมด SPORT ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

161114723659

และหากขับเตลื่อนด้วยโหมด อีวี สามารถใช้งานได้สูงสุด 52 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 41 กรัม/กิโลเมตรตามการอ้างอิงผล ECO Sticker ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูยืนยันว่า ต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดขนาดใหญ่ในประเทศไทย

530e M Sport มี "ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว" เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 3 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนระบบช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive ขณะที่520d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ M Sport

สำหรับเทคโนโลยี และระบบต่างที่ติดตั้งเข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)

ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ใน 530e M Sport ระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว ใน 520d M Sport และ 530e Elite ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่่ครบทุกรุ่น

เซนเซอร์ควบคุุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ระบบ เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง

530e M Sport ติดตั้งกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง และระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ทั้งการถอยจอดเข้าช่องจอด และจอดขนาน

ภายในห้องโดยสาร ปุ่มควบคุมบริเวณคอนโซลกลางมาในสีดำเงาเพื่อความหรูหรา พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น M Sport คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ในรุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport

520d M Sport และ 530e M Sport ห้องโดยสารตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่่ยม

ส่วน 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียม

161114723352

161114723429

ยกระดับระบบความบันเทิงและการสื่อสาร โดย 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด BMW Operating System 7 ที่ และยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ ที่รองรับ "BMW Digital Key" ทำให้ไม่ต้องใช้กุญแจ แต่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone เป็นเหมือนกุญแจรถ สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC รองรับได้สูงสุด 5 เครื่อง

161114723545

บีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัว ซีรีส์ 5 LCI 5 สี ได้แก่ Alpine White, Black Sapphire metallic, Bluestone metallic และ Phytonic Blue รวมทั้งสี Bernina Grey Amber effect สำหรับ 520d M Sport และ 530e M Sport