'บิทคับ'กลับมาเปิดให้บริการแอปฯซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

'บิทคับ'กลับมาเปิดให้บริการแอปฯซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

"บิทคับ" กลับมาเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน หลังทำการปรับปรุงระบบเบื้องต้น พร้อมให้ความร่วมมือ ก.ล.ต. จัดมาตรการดูแลนักลงทุน


ภายหลังคณะกรรมการของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ออกจดหมายด่วน มีมติให้บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) แก้ไขระบบงานเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนตามประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 นั้น ทางบริษัทได้นำข้อเสนอแนะเข้าที่ประชุมบริษัทฯ และแจ้งให้พนักงานเตรียมการและวางแผนดำเนินงานให้ได้ตามเงื่อนไขที่ทาง ก.ล.ต. แจ้งมาและวางแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ทางบริษัทได้ปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงระบบและการให้บริการเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

ปิดการรับสมัครลูกค้าใหม่ เพื่อจัดการสะสางยอดผู้สมัครใหม่ที่รอการยืนยันตัวตน โดยบริษัทได้ทำการเพิ่มพนักงานสัญญาจ้างชั่วคราวจำนวน 120 อัตรา เพื่อรองรับลูกค้าที่สมัครเปิดบัญชีใหม่และทำการขอยืนยันตัวตนเข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบรายการยืนยันตัวตนคงค้างให้เสร็จสิ้น โดยปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 และอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบรายการคงค้างที่เหลือ 

ปรับปรุงระบบการจัดการเรื่องร้องเรียน

ดำเนินการเพิ่มพนักงานสัญญาจ้างชั่วคราวจำนวน 300 อัตรา เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในระบบ โดยการให้บริการจะดำเนินการผ่านช่องทางหลัก ได้แก่ ไลฟ์แชท โทรศัพท์ และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(อีเมล) รวมถึงมีการขยายคู่สายการให้บริการทางโทรศัพท์ จาก 30 คู่สาย เป็น 240 คู่สาย 

ปรับปรุงระบบ พัฒนาและขยายระบบภายในและแอปพลิเคชันให้สามารถใช้งานได้

ดำเนินการออกแบบและเตรียมปรับปรุงวิธีการแสดงผล ทั้งเว็บไซต์และโมบายแอปพลิเคชัน ให้มีการแสดงผลสินทรัพย์ที่ถือครองอย่างถูกต้อง 

ดำเนินการพัฒนาแผนการที่สามารถรองรับการประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) ตามที่กำหนด

พัฒนาระบบตรวจสอบการซื้อขายภายในและระบบการกู้คืน Trading Function หากเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งบริษัทฯ กำลังดำเนินการร่างแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อรองรับสถานการณ์เมื่อเกิดเหตุขัดข้องในอนาคต


พัฒนาระบบการตรวจสอบการซื้อขายตามที่กำหนด
ดำเนินการทำระบบการแจ้งเตือนนักลงทุน เมื่อราคาต่างกับตลาดอื่นๆอย่างผิดปกติ โดยจัดทำทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยงานในส่วนนี้จะมีการออกประกาศเรื่องแนวทางการขึ้นเครื่องหมายเพื่อให้นักลงทุนทราบถึงสถานะของเหรียญนั้น ภายในวันที่ 23 มกราคม 2564

ส่วนแผนในระยะยาวจะทำการเสริมทีม Market Surveillance เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการส่งคำสั่งไม่เหมาะสมในตลาด โดยรายละเอียดของแผนงานต่างๆ จะถูกนำเสนออย่างเป็นรูปธรรมให้สำนักงานกำกับดูแลโดยตรง

ทั้งนี้การดำเนินการแก้ไขปัญหาของบริษัทฯ ตามที่ได้ชี้แจงไปข้างต้นนั้นสอดคล้องกับประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อ้างอิงจากประกาศของ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มีมติให้บริษัทส่งแผนการแก้ไขให้ ก.ล.ต. และดำเนินการแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน โดยมีรายละเอียดตามประกาศนี้ https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=8747

 

ส่วนความคืบหน้านั้น บริษัทฯ สามารถนำระบบโมบายแอปพลิเคชันกลับมาให้ใช้งานได้บางส่วน เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 20 มกราคม 2564 โดยให้ลูกค้าสามารถล็อกอินเข้ามาในระบบเพื่อทำการยกเลิกคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตั้งไว้ระหว่างช่วงเวลา 14:30 น. - 15:00 น. และ เปิดให้ระบบกลับมาใช้งาน ซื้อ - ขาย - ฝาก - ถอนสินทรัพย์ดิจิทัล และฝาก - ถอนเงินสกุลไทยบาท ได้ตั้งแต่เวลา 15:00 น. วันที่ 20 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ ฟังก์ชันที่ไม่สามารถใช้งานบนโมบายแอปพลิเคชันได้ชั่วคราว มีดังต่อไปนี้

- การเพิ่มบัญชีธนาคาร

- ฟังก์ชันแก้ไขการลืมรหัสผ่าน

- การฝากเงินบาทโดยโอนผ่านบัญชีธนาคาร (แต่ยังสามารถฝากเงินบาทผ่านการใช้ QR Code ได้ตามปกติ)

และมีการแจ้งเพิ่มเติมว่าระบบอาจจะมีการใช้งานที่ช้ากว่าปกติในช่วงแรก เนื่องจากมีการจำกัดเข้าถึงและจะกลับมาเป็นปกติในไม่ช้า และเว็บไซต์อยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่กำหนด และหากท่านใดมีคำร้องหรือข้อสงสัยสามารถติดต่อบริษัทได้ที่ [email protected]


           
คณะผู้บริหาร พนักงาน รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ล้วนมีความเสียใจและไม่นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการเพิ่มบุคคลากรและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้คลี่คลายได้เร็วที่สุด โดยมีเป้าหมายนำระบบให้บริการสามารถกลับมาให้บริการได้เต็มรูปแบบอีกครั้ง และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานแก่ลูกค้าได้ดังเดิม