'ยุทธพงศ์'เปิดข้อพิรุธ'กทม.'ขึ้นราคาสายสีเขียว104บาทจี้'นายกฯ'ยับยั้ง

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม เพื่อเพื่อไทย แถลงเปิดหลักฐานเด็ดยับยั้งการขึ้นค่าโดยสาร BTS ว่า เมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยได้อภิปรายคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก40ปี โดยในส่วนของสภามีมติไม่เห็นชอบกับการขยายสัมปทาน ให้รอหมดอายุสัมปทานเพื่อให้เกิดการแข่งขัน มีการแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ และมีหนังสือส่งกลับมาว่า จะปฏิบัติตามกฎหมายครบถ้วนตามพ.ร.บ.ร่วมทุน แต่เวลาปฏิบัติกลับใช้ตามคำสั่งม.44

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า วันนี้มีเรื่องด่วนตามที่พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ประกาศว่าวันที่ 16ก.พ.นี้ จะขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็น 104 บาท เป็นการซ้ำเดิมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจ ถ้าต้องนั่งไปกลับ ค่าโดยสาร 208 บาท ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำ 331 บาท ประชาชนจะอยู่กันอย่างไร ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม.คิดได้อย่างไร ที่ให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ต่อสัมปทาน 40 ปี หรือมีมติครม.ว่าไม่ให้ขึ้นค่าโดยสาร ทางกทม.ก็ต้องขึ้น และท้าให้ไปฟ้องป.ป.ช.

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุที่กทม. ขึ้นค่าโดยสารเพราะเป็นหนี้BTS 8พัน ล้านบาท จากการจ้างเดินรถส่วนต่อขยาย เหมือนเอาคนกทม.เป็นตัวประกัน ตนไม่รู้ว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังอยู่เฉย ไม่เรียกผู้ว่าฯกทม.มาหาทางยับยั้งขึ้นค่าโดยสาร เรื่องนี้จะเป็นประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป ถ้าไม่มีเพื่อไทยป่านนี้มีการต่อสัมปทานไปแล้ว

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ต้องเปิดเผยข้อมูลก่อนนั้น ทางเพื่อไทยจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 09.30 น. คาดว่าจะได้อภิปรายหลังวันที่ 16 ก.พ.นี้ ถ้าเพื่อไทยรอแฉในสภา แต่วันที่ 16ก.พ. คนเดือดร้อนแล้วใครจะช่วย ก็ต้องหาทางช่วยประชาชนก่อน

อย่างไรก็ตาม นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญของเรื่องนี้คือ การที่กทม.รับโอนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ทั้ง หมอชิต-คูตด และ แบริ่ง-สมุทรปราการ จากรฟม. มูลค่าหนี้ทั้งหมด 51,785 ล้านบาท การที่กทม.จะรับโอนก็ต้องมีเงินไปจ่ายรฟม. ผู้ว่าฯกทม.จึงออกข้อบัญญัติกทม. เรื่องการกู้เงินเพื่อโครงการดังกล่าว เมื่อ 8 ต.ค.61 จึงเป็นข้อพิรุธที่กทม.อ้างเป็นหนี้ ไม่มีเงินเงินจ่าย ต้องขึ้นค่าโดยสาร และนับตั้งแต่ออกข้อบัญญัติกทม. จนถึงปี64 ก็ยังไม่ได้กู้สักบาท ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งที่มติครม.เห็นชอบให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้กทม.แล้ว

"แสดงว่าที่บอกเป็นหนี้ กทม.เตรียมการอยู่แล้ว ทั้งที่กทม.มีแหล่งเงินที่จะนำมาจ่าย แต่ทำไมไม่ทำ" นายยุทธพงศ์ กล่าว

นอกจากนั้น มติครม.เมื่อ 30พ.ย.61 ที่เห็นชอบให้โอนสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้งเหนือและใต้โดยในข้อ 6 ระบุว่า ให้กทม. พิจารณาดำเนินการ 6.1 บริหารจัดการรายได้ ตั้งงบประมาณให้เพียงพอต่อการชำระหนี้อย่างเคร่งครัด กำหนดค่าโดยสารให้เหมาะสม สอดคล้องกับค่าครองชีพผู้ใช้บริการ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 61 ทำไม มหาดไทย และกทม.ไม่ปฏิบัติ จะอ้างคำสั่งม.44 ให้เจรจา BTS รับหนี้ของกทม. เพื่อต่อสัมปทาน 40 ปี

"ปัญหาคือเขาพยายามสร้างให้เกิดปัญหาเพื่อต่อสัมปทาน หนี้5หมื่นกว่าล้าน กทม.และมหาดไทย ละเว้นหรือไม่ ออกข้อบัญญัติเอง ครม.มีมติให้คลังค้ำประกันเงินกู้ วันนี้เอาคนกรุงเทพเป็นประกัน" นายยุทธพงศ์ กล่าว

ดังนั้น ทางพรรคเพื่อไมยจึงมีข้อเสนอ 1. ขอให้กทม.ชะลอขึ้นค่าโดยสาร 104 บาท ภายใน 16 ก.พ.นี้ ออกไปก่อน

2.เรื่องคิดค่าโดยสารที่เหมาะสม ไม่ใช่คิดตามหลักคิดต่อกิโลเมตร โดยตลอดสายอยู่ที่ 84 กิโลเมตร คิดกิโลเมตรละ 1.23 บาท ใครจะนั่งยาวตั้งแต่คูคตไปถึงเคหะบางปู จึงต้องดูว่าผู้ใช้บริการโดยสารเฉลี่ย 12 สถานี

3.รถไฟฟ้าเป็นบริการสาธารณะ ค่าโดยสารประชาขนต้องรับได้ กทม.ต้องดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ไม่ต้องมาเถียงว่าสายสีเขียวลงทุนมากกว่าสายสีอื่น เลยต้องแพงกว่า

"ผมจะเอาหลักฐานทั้งข้อบัญญัติกทม. มติครม.ไปยื่นในวันที่ 16ก.พ.นี้ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงศ์ และพลต.อ.อัศวิน เพื่อยับยั้งไม่ให้ขึ้นราคาค่าโยสาร ผู้เกี่ยวข้องเข้าข่ายผิดม.157 ละเว้นหรือไม่ ข้อบัญญัติออกตั้งแต่ 8ต.ค.61 ออกเองเซ็นเองเพื่อกู้เงิน แล้วทำไมไม่ไปกู้ มาบอกว่าเป็นหนี้ ไม่มีเงินให้เขา ทางออกก็มีอยู่คลังพร้อมค้ำประกัน มีข้อพิรุท ผิดกฎหมายฝากสื่อมวลชนติดตาม" นายยุทธพงศ์ กล่าว