ตลาดหุ้นโลกเริ่มปรับฐาน สอดคล้องกับมุมมองเรา และไม่ได้เปลี่ยนภาพบวกระยะกลาง

การเก็งกำไรหุ้น Gamestop (GME) ที่ต้นปีมีราคาเพียง 14-15 เหรียญฯ แต่ล่าสุดขึ้นมาเป็น 347 เหรียญฯ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งนี้หุ้นมีปริมาณขายชอร์ตสะสมในระดับที่สูงที่มาจากกลุ่มของกองทุนและ Hedge fund ก่อนที่แรงเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อยจะผลักดันราคาหุ้นขึ้นจนทำให้ Hedge fund บางแห่งที่ทนผลขาดทุนไม่ได้ จำเป็นต้องปิดสถานะโดยการซื้อหุ้นคืนในกระดาน ซึ่งยิ่งทำให้เกิดแรงผลักดันราคาหุ้นขึ้นไปอีก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดแรงเก็งกำไรลุกลามไปยังหุ้นที่มีหุ้นหมุนเวียนไม่มาก (Free float ต่ำ) และมีปริมาณขายชอร์ตสะสมสูงอีกหลายๆตัว ทำให้ตลาดกังวลความผันผวนช่วงสั้นจะเพิ่มขึ้นจาก 1) การถูกบังคับให้ปิดสถานะชอร์ตและรับรู้ขาดทุน ทำให้ Hedge fund จำต้องขายหุ้นอื่นเพื่อหักล้างผลขาดทุน และ 2) ผู้กำกับดูแลอาจเข้ามาแทรกแซงหรือเพิ่มกฎเกณฑ์ในการควบคุม

นักลงทุนผิดหวังเฟดไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% โดยยังคงวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ 1.2 แสนล้านเหรียญฯ/เดือน (พันธบัตรรัฐบาล 8 หมื่นล้านเหรียญฯ / ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่ออสังหาฯ เป็นหลักประกันการจำนอง 4 หมื่นล้านเหรียญฯ) ซึ่งแม้เฟดจะยืนยีนการใช้ทุกเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษบกิจ แต่การแสดงความเห็นต่อความกังวลถึงมุมมองเศรษฐกิจ ประกอบกับการไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทำให้นักลงทุนผิดหวังและเพิ่มความระวังต่อแรงทำกำไรระยะสั้น

ยังคงเลือกเก็งกำไรและระวังความเสี่ยงจากการปรับสินทรัพย์ลงทุนในระยะสั้น การปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกของ IMF แม้เป็นปัจจัยบวก อย่างไรก็ตามระยะสั้นเรายังคงระวังความเสี่ยงของการปรับพอร์ตการลงทุนทั่วโลก (Global asset rebalancing) ซึ่งอาจทำให้เกิดการลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ อย่างไรก็ตามผลจากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ.ที่น่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ทำให้เรามองการปรับฐานที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นการใช้เวลา (แกว่งตัว และปรับไม่ลึก) มากกว่าการใช้ระยะทาง

ภาพรวมกลยุทธ์ ยังคงมุมมองเชิงบวกระยะกลาง-ยาว อย่างไรก็ตามช่วงสั้นคาดเริ่มมีแรงทำกำไรรายตัวในหุ้นที่ปรับขึ้นมาก และอาจผันผวนจากการรายงานผลประกอบการ รวมทั้งจากการปรับน้ำหนักสินทรัพย์ลงทุน (rebalancing) ประเมิน downside ที่ 1,450 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร SUPER*, DOD*, SAPPE*

แนวรับ 1,480 จุด / แนวต้าน : 1,505-1,520 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

บิตคอยน์ดิ่งหลุด $30,000. ราคาบิตคอยน์ทรุดตัวหลุด $30,000 หรือลดลง -7.88% หลังนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการที่ทางการสหรัฐและยุโรปอาจคุมเข้มกฎระเบียบการซื้อขายบิตคอยน์และสกุลเงินคริปโต

ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปี 63 หดตัว -8.8%. สศอ.เปิดเผยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 96.53 ลดลง -2.44% yoy จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดระลอกใหม่ ส่งผลให้ทั้งปีหดตัว -8.8% yoy

ธุรกิจเลิกกิจการพุ่ง 145% mom ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่วูบ. กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค.63 มีธุรกิจเลิกประกอบกิจการจำนวน 6.013 พันราย เพิ่มขึ้น +6% yoy และ เพิ่มขึ้น +145% mom ส่งผลให้ตัวเลขทั้งปีอยู่ที่ 20.920 พันราย ขณะที่ธุรกิจจัดตั้งใหม่ เพิ่มขึ้น +4% yoy แต่ลดลง -27% mom

ปลดล็อกกระท่อม - สภามีมติเห็นชอบปลดล็อกพืชกระท่อม ยกเลิกจากบัญชียาเสพติด มีผลบังคับใช้ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจาฯ ให้เวลาร่างกฎหมายรองต่อ เรามองบวกต่อกลุ่มผลิตสารตั้งต้นเพื่อนำไปผสมอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ RBF, DOD และ MALEE รองลงมาคือกลุ่มเครื่องดื่ม SAPPE, CBG และ OSP

 

ประเด็นติดตาม: - 28 ม.ค. : US GDP 4Q20, TH :ประกาศงบ PTTEP // 29 ม.ค. : TH Economic Review

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)