โควิดรอบใหม่กระทบแรงงานท่องเที่ยว 2 ล้านราย ขอรัฐช่วย“โคเพย์” 2-4 เดือนประคองธุรกิจ

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ได้ส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งระบบ ซึ่งจากการประเมินตัวเลขเบื้องต้นพบว่าผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทนำเที่ยวที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 1 หมื่นราย ปิดกิจการเกือบทั้งระบบ ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมมีเปิดให้บริการไม่เกินสัดส่วน 30% และแรงงานท่องเที่ยวอีกประมาณ 4.4 ล้านราย ได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างต่ำ 2 ล้านราย

“การรระบาดโควิดรอบใหม่ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักกว่ารอบแรก เพราะผู้ประกอบการได้ใช้เงินก้อนสุดท้ายมาฟื้นฟูกิจการในช่วงหลังการระบาดโควิดรอบแรกหมดแล้ว มาตรการที่รัฐเข้ามาช่วยเหลือก็ต้องตรงจุดกับผู้ประกอบการ”

ทั้งนี้ ภาครัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เป็นยาแรงเพื่อช่วยภาคการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่ารัฐบาลควรปรับเงื่อนไขในมาตรการซอฟท์โลนเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงเงินกู้ พร้อมกับช่วยเหลือในการช่วยผู้ประกอบการจ่ายค่าจ้างแรงงาน หรือโคเพย์ อย่างน้อย 2-4 เดือน และควรตั้งกองทุนด้านการท่องเที่ยวขึ้นมา โดยรัฐบาลอาจหาเงินมาก่อนและนำมากระจ่ายในระบบเพื่อช่วยภาคการท่องเที่ยว เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ให้เก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวนำเงินกลับเข้าระบบ

“ในด้านของการกระตุ้นการท่องเที่ยว รัฐบาลควรใช้มาตรการเที่ยวคนละครึ่ง เหมือนโครงการคนละครึ่งมาช่วย รวมทั้งเที่ยวไทยวัยเก๋า ที่จะช่วยผู้ประกอบการนำเที่ยวในระยะสั้นนี้ โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวทางรมว.ท่องเที่ยวฯได้สั่งให้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋าเข้าครม.ในสัปดาห์หน้า”