ศบค.มท.สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ยึดข้อกำหนดฉบับที่ 18-คำสั่ง ศบค.ที่ 2/2564 ควบคุม 'โควิด' เคร่งครัด
ศบค.มท.สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ถือปฏิบัติมาตรการตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 18-คำสั่ง ศบค. ที่ 2/2564 ควบคุม "โควิด" เคร่งครัด
วันที่ 1 ก.พ. รายงานข่าวจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย(ศบค.มท.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามประกาศใช้ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 ม.ค. 64 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 2/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 29 ม.ค.64 มีสาระสำคัญ คือ การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ได้แก่
1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง
2.การใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา
3.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่จำเป็นสำหรับพื้นที่
4.การเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน
5.มาตรการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
6.มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่
7.การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ โดยกำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์ “พื้นที่ควบคุม” 20 จังหวัด “พื้นที่เฝ้าระวังสูง” 17 จังหวัด และ “พื้นที่เฝ้าระวัง” 35 จังหวัด
เพื่อให้เกิดการดำเนินงานเฝ้าระวังและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นไปตามข้อกำหนดฯ และคำสั่งฯดังกล่าว ล่าสุดนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดถือปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ และคำสั่งฯ โดยเคร่งครัด และสร้างการรับรู้มาตรการต่าง ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
โดยในกรณีที่จังหวัดจะมีการปรับระดับของแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเสนอต่อศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ตรวจสอบ กลั่นกรอง เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในระดับเขตอำเภอที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบได้ และกรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาจากข้อเท็จจริงและสถานการณ์ในพื้นที่แล้วเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะกำหนดข้อห้าม เงื่อนไข และมาตรการที่เข้มข้นกว่าข้อกำหนดฯ ให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และเมื่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้มีมติให้ออกประกาศ คำสั่งแล้ว ให้ส่งประกาศหรือคำสั่งให้ ศบค.มท. เพื่อแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบโดยทั่วกัน