เสียงสะท้อน 'โครงการเราชนะ' คิดและพูดดังๆ ไปยังรัฐบาล
ยังพอมีเวลาสำหรับการลงทะเบียน เราชนะ เพราะรัฐบาลเปิดโอกาสให้ลงได้ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของชาวบ้านว่าคิดเห็นอย่างไร ชอบแบบไหน ดีหรือไม่ดี
ไปฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน ที่มีต่อโครงการเราชนะ www.เราชนะ.com
ชาวบ้านหนองร้านหญ้า ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ระบุว่า โครงการเราชนะ ของรัฐบาล ส่วนใหญ่คิดเห็นตรงกันว่าอยากได้เงินสดมากกว่า เพราะสามารถนำไปใช้หนี้สิน ให้ค่าขนมหลานไปโรงเรียน เพราะของใช้มีเยอะแล้ว บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนก็แลกซื้อของใช้ประจำทุกเดือน ถ้าจะให้แลกซื้ออีกก็คิดว่าเกินความจำเป็น
ยายสุภี บอกว่า ปกติตนเองมี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เดือนละ 800 บาท สำหรับซื้อของที่จำเป็น เช่น สบู่ ยาสีฟัน เครื่องปรุง นม กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ชาวบ้านส่วนใหญ่ทุกคนก็อยากได้เงินสด เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ปกติอยู่บ้านเลี้ยงหลานรายได้หลักไม่มีเลย ลูกที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯก็ได้รับผลกระทบจากโควิด ส่งเงินมาบ้างช่วงสิ้นเดือน ซึ่งโครงการของรัฐบาลในครั้งนี้ ถ้าได้เป็นเงินสดจะช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนได้มากกว่า จะได้เอาไปใช้หนี้สินที่หยิบยืมเพื่อนบ้านมา
เช่นเดียวกับ นางสาวทิพย์สุดา นาตรีชน อายุ 30 ปี อดีตพนักงานร้านฯ ที่จ.ระยอง ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ร้านปิดจึงต้องกลับมาอยู่บ้านกับลูกสาววัย 3 ขวบ เธอยอมรับอยากได้เป็นเงินสดเหมือนกัน เพราะผลกระทบโควิดที่ผ่านมา ทำให้มีหนี้สินหลายอย่าง ทั้งค่าผ่อนรถ ค่าครองชีพ และหนี้บัตรเครดิต ที่กดมาใช้ก่อนเนื่องจากไม่มีงานทำ และยังต้องมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำรงชีวิต ซึ่งแนวโน้มตอนนี้ไม่รู้ว่าสถานการณ์โควิดจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไปคงลำบาก ตอนนี้ก็พยายามหางานทำใกล้บ้าน แต่ยังไม่มีบริษัทใดติดต่อมา พยามติดตามข่าวสารว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
อีกประเด็น ที่หลายฝ่ายยังแสดงความเป็นห่วง และตั้งคำถามสำหรับชาวบ้านที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเข้าถึงสิทธิ์อย่างไร ถึงแม้จะสามารถลงทะเบียน ที่ธนาคาร กรุงไทย , ออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ แต่รูปแบบการจ่ายเงินหรือการใช้สิทธิ์ต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย 31 ล้านคน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงสิทธิ์กันถ้วนหน้า