พันธบัตร”เราชนะ”ยอดขายพุ่ง5หมื่นล้าน

พันธบัตร”เราชนะ”ยอดขายพุ่ง5หมื่นล้าน

ความต้องการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น”เราชนะ”ยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนจากยอดที่ขายบนวอลเล็ต สบม.หรือบนแอปพลิเคชันเป๋าตังที่ขายหมดเกลี้ยงในวันแรกจำนวน 5 พันล้าน​ และ ยอดขายผ่าน 4 แบงก์ที่เปิดขายให้บุคคลธรรมดามียอดเข้าซื้อพุ่งถึง 4.5​ หมื่นล้าน

แพตริเซีย มงคลวณิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)กล่าวคาดว่า การขายพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวจะเต็มจำนวนในวันสองวันนี้ โดยพันธบัตรออมทรัพย์ ถือเป็นทางเลือกที่ดีมากๆสำหรับการลงทุน เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เสี่ยงเลย ตอนที่เราดีไซน์ดอกเบี้ยออกมานั้น เราไม่ได้บวกมาก แต่เราก็ดูให้มากพอที่คนจะสนใจ

“ถ้าดูตลาดหุ้นกู้ปัจจุบัน จะพบว่า มีการออกวงเงินจำนวนมาก และ ดอกเบี้ยค่อนข้างแพง บางแห่งให้ดอกเบี้ย 7%ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน หลายคนถามว่า ทำไม ไม่ให้ดอกเบี้ยแพงๆ เราบอกว่า ไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันกับหุ้นกู้เอกชนเลย เพราะระดับความเสี่ยงหรือเครดิตต่างกันมาก ฉะนั้น เราเป็นโปรดักส์ที่ไม่เหมือนใคร ความมั่นคงค่อนข้างสูง เชื่อว่า คนที่เลือก โปรดักส์ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ เขาก็จะลงทุนในโปรดักส์ที่มีความมั่นคงด้วย เป็นการดูแลเงินต้นไม่ให้หายไปด้วย”

ขายบนวอลเล็ต5พันล้านหมดในวันแรก

ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าการเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น”เราชนะ”วงเงินรวม 6 หมื่นล้านบาทว่า ในส่วนที่เปิดขายบนวอลเล็ต สบม.หรือบนแอปพลิเคชันเป๋าตังวงเงิน 5 พันล้านบาท ซึ่งเปิดขายในวันที่1ก.พ.ที่ผ่านมานั้น สามารถขายได้เต็มจำนวนภายในเวลา 8 ชั่วโมง ส่วนที่เปิดขายผ่านธนาคารตัวแทน ซึ่งเปิดขายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุด สามารถขายได้แล้ว 4.5 หมื่นล้านบาท หรือ 82%ของวงเงิน 5.5 หมื่นล้านบาท คาดว่า ภายในวันสองวันนี้ จะขายได้ครบจำนวน

พบผู้ซื้ออายุสูงสุด94ปี

ทั้งนี้ ในส่วนที่เปิดขายบนวอลเล็ตสบน.พบว่า ผู้ที่เข้ามาซื้อนั้น มีจำนวนกว่า 9.5 พันคน มียอดซื้อต่ำสุด 100 บาท สูงสุด 5 ล้านบาท เฉลี่ยยอดซื้อรวมที่ 5.2 แสนบาทต่อราย แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 33%และต่างจังหวัด 67%เป็นผู้หญิง 64%และผู้ชาย 36%ในจำนวนนี้ มีช่วงอายุตั้งแต่ 15 ปี จนถึงสูงสุดที่ 94 ปีส่วนที่เปิดขายผ่านธนาคารตัวแทนนั้น จะมีผู้เข้ามาซื้อรุ่นอายุ 5 ปี 68%และ 10 ปีที่ 32%

“พันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลนั้น ถือเป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุน เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยง และให้ผลตอบแทนที่ดีโดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดการเงินมีความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐเพื่อการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ดังนั้น ประชาชนจึงให้ความสนใจจะลงทุนมาก เราก็คาดว่า จะมียอดซื้อเต็มจำนวน”

สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นเราชนะดังกล่าวนั้น เป็นการระดมทุนเพื่อนำเงินที่ได้ไปบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน และพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบการระบาดของโควิด-19ระลอกใหม่ตามแผนงานโครงการของรัฐบาล

ทั้งนี้ สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นเราชนะบนวอลเล็ต สบม.วงเงินจำหน่าย5พันล้านบาท รุ่นอายุ5ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได (Step-up)เฉลี่ย2.00%ต่อปี โดยเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่100บาท จนถึง5ล้านบาท

ขายผ่านแบงก์แล้ว4.5หมื่นล้าน

ส่วนพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นเราชนะวงเงิน5.5หมื่นล้านบาท เป็นการจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรผ่าน4ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ แบบไม่จำกัดวงเงินซื้อ ตั้งแต่วันที่5 – 19ก.พ.นี้

แบ่งการจำหน่ายเป็น2ช่วง ดังนี้1.วันที่5-15ก.พ.นี้ จำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได (Step Up)โดยรุ่นอายุ5ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย2.00%ต่อปี และรุ่นอายุ10ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย2.50%ต่อปี2.วันที่16-19ก.พ.นี้ จำหน่ายให้กับนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด รุ่นอายุ15ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่1.80%ต่อปี โดยล่าสุดมียอขาย 4.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าภายใน2 วันนี้ จะสามารถขายได้หมด

ทั้งนี้ วงเงินรุ่นเราชนะที่จำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. และธนาคารตัวแทนจำหน่ายไม่นับรวมกัน ผู้ลงทุนจึงสามารถลงทุนได้ทั้ง2ช่องทาง

ระดมเงิน2.1แสนล้านทุกช่องทาง

สำหรับการระดมเงินสำหรับโครงการเราชนะวงเงิน 2.1 แสนล้านบาทนั้น ดำเนินการผ่านการออกตั๋วพีเอ็นวงเงิน 8 หมื่นล้านบาท พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว 3 หมื่นล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ 6 หมื่นล้านบาท และเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มทยอยเบิกมาใช้แล้ว โดยปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมาได้เบิกมาแล้ว 6 พันล้านบาท ในเดือนก.พ.อีก 4 พันล้านบาท ซึ่งเราทำความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้

“ตอนนี้ เรายังกู้ในประเทศ เพราะสภาพคล่องยังอยู่ในระดับสูง แต่ก็ดูตลาดไว้ตลอด เพราะเราไม่รู้ว่า สภาพคล่องจะหายไปเมื่อไหร่”