ส.อ.ท.หนุนรัฐกู้เงิน 2 ล้านล้านฟื้นเศรษฐกิจ

ส.อ.ท.หนุนรัฐกู้เงิน 2 ล้านล้านฟื้นเศรษฐกิจ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สนับสนุนรัฐบาลกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทใช้แก้ไขเศรษฐกิจหลังได้วัคซีนโควิด เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ชี้ ควรขยายมาตรการคนละครึ่งออกไป 4-6 เดือนและเพิ่มวงเงินเป็นรายละ 5 พันบาท เพราะทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบ 2 เท่า

นายสุพันธ์ุ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.สนับสนุนให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 2 ล้านล้านบาท จากที่กู้มาแล้ว 1 ล้านล้านบาท เพื่อมาใช้เป็นเงินสำรองในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่วัคซีนป้องกันโควิดเริ่มเข้าไทยในเดือนก.พ. ซึ่งจะเริ่มทยอยฉีดและสถานการณ์โควิดจะเริ่มคลี่คลายลง ดังนั้นจึงต้องมีเม็ดเงินเข้ามาอัดฉีดเศรษฐกิจต่อเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวที่ต้องใช้ระยะเวลากว่าจะกลับมาเป็นปกติ โดยสถานะทางการเงินของไทยในปัจจุบันสามารถทำได้ที่จะกู้เงินจำนวนนั้นเข้ามาดูแลเศรษฐกิจ

ปล่อยเสียงสุพันธ์ มงคงสุธี การ์ดเศรษฐกิจส.อ.ท. 17/02/64 เริ่ม 00.11.05.04 (เห็นด้วยกับการกู้เงินเพิ่มเติม) จบ 00.11.59.17 (เมื่อเทียบประเทศอื่น)

สำหรับมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลควรดำเนินการต่อเนื่อง คือ โครงการคนละครึ่งที่ควรขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีก 4-6 เดือน หลังจากที่จะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 มี.ค. 2564 และควรเพิ่มวงเงินออกไปจากรายละ 3 พันบาท เป็น 5 พันบาท เพราะโครงการคนละครึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม เนื่องจากเม็ดเงินที่มีการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง จะกลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้เพิ่ม 2 เท่า

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องลงไปช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสายป่านสั้น โดยขณะนี้ทางกระทรวงการคลังกำลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ผ่อนผันหลักเกณฑ์การขอสินเชื่อของเอสเอ็มอี ซึ่งหามาตรการดังกล่าวบังคับใช้แล้ว ก็จะช่วยทำให้สภาพคล่องเอสเอ็มอีดีขึ้นจากการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มากขึ้น

ส่วนมาตรการอื่นๆ คือการเร่งผลักดันการลงทุนและปรับโครงสร้างในหลายภาคส่วนเพื่อให้รองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบโควิด รวมถึงการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรเพื่อใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ขณะที่การลงทุนของเอกชนนั้น รัฐบาลจะต้องเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงการแก้ไขกฎหมายที่เป็นข้อจำกัดในการทำธุรกิจ ซึ่งส.อ.ท.กำลับรวบรวมและเสนอไปยังรัฐบาล