พฤกษา‘ซินเนอร์จี้’เทพธารินทร์ เสริมแกร่ง‘รพ.วิมุต’รับเทรนด์สุขภาพ

พฤกษา‘ซินเนอร์จี้’เทพธารินทร์  เสริมแกร่ง‘รพ.วิมุต’รับเทรนด์สุขภาพ

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดฉุดกำลังซื้อต่างชาติหายไปและกำลังซื้อชาวไทยที่แผ่วลง แต่เมกะเทรนด์สุขภาพ! เป็นโอกาสสำคัญทำให้ “พฤกษา” เปิดเกมรุกตลาดนี้มากขึ้น ทุ่ม 708 ล้านบาท เข้าถือหุ้นโรงพยาบาลเทพธารินทร์ 51% เสริมความแกร่ง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดฉุดกำลังซื้อต่างชาติหายไปและกำลังซื้อชาวไทยที่แผ่วลง แต่เมกะเทรนด์สุขภาพ! เป็นโอกาสสำคัญทำให้ “พฤกษา” เปิดเกมรุกตลาดนี้มากขึ้น ทุ่ม 708 ล้านบาท เข้าถือหุ้นโรงพยาบาลเทพธารินทร์ 51% เสริมความแกร่งให้กับกิจการ “โรงพยาบาลวิมุต” ที่กำลังจะเปิดในเดือน พ.ค.นี้

ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาฯ ต้องปรับโมเดลรับมือการเปลี่ยนแปลง เพื่อความอยู่รอดในยุคโควิด นอกจากสร้างองค์กรให้มีความยืดหยุ่น มีขนาดองค์กรไม่ใหญ่จนเกินไป เข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อบาลานซ์พอร์ต “ลดความเสี่ยง” ด้วยการเข้าไปใน “ธุรกิจสุขภาพ” ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ระดับโลก และเป็นจุดแข็งของประเทศไทย

“กลุ่มธุรกิจสุขภาพจะเข้าไปรวมอยู่กับธุรกิจอสังหาฯ ในรูปแบบของการทำโปรโมชั่นด้านสุขภาพต่างๆ ออกมาให้ลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในวงการอสังหาฯ และตอบโจทย์ลูกค้าส่วนหนึ่งที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หากคิดเป็นตัวเลขทางอ้อมของธุรกิจสุขภาพจะมีสัดส่วน 10% จากรายได้รวมในการเข้ามาช่วยส่งเสริมการขาย”

ยกตัวอย่าง ปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการอเวนิว ย่านบางนา จะผสานเรื่องสุขภาพให้บริการลูกบ้านในหลายโครงการแบรนด์ Passorn ,THE PALM, THE PLANT, PRUKSA VILLE ตั้งแต่การป้องกัน รักษา โดยจะมีรูปแบบอเวนิว 3 โซนหลักที่มีสเกลใหญ่ โซนแรกที่บางนา โซนสอง แจ้งวัฒนะ และโซนสาม คลอง 3 คิดเป็นมูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท ที่มีโรงพยาบาลขนาดย่อมอยู่หน้าโครงการ และบริการเนอสซิ่งโฮม 30-40 เตียง เป็นต้น

กลุ่มธุรกิจสุขภาพเป็นจะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนพฤกษามากขึ้นผสานธุรกิจหลักให้เกิดความแข็งแกร่ง ล่าสุดได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการนำคอนโดมิเนียมบางส่วนมาพัฒนาเป็น “เนอสซิ่งโฮม” ซึ่งแหล่งทุนในการขยายธุรกิจมาจากสภาพคล่องกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ปิยะ ระบุว่า ปี 2564 ตลาดอสังหาฯ จะขยับดีกว่าปีก่อน ภาพรวมเติบโต 9% โดยบริษัทมีแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 26,630 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ บ้านเดี่ยว 8 โครงการ และคอนโด 4 โครงการ ภายใต้กลยุทธ์ “A Year of Value” เข้าใจ เข้าถึงความต้องการลูกค้าในเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า “ไม่ใช่” แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังมีคุณค่าอื่น อาทิ ร้านอาหาร ไลฟ์สไตล์มอลล์ บริการเพื่อสุขภาพจากโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือพฤกษา ประกอบด้วยคลินิก ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแล และบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน ในโครงการพฤกษา เพื่อสร้างชุมชนให้น่าอยู่และตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างครบวงจร

นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมุต โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมทุนในบริษัทเทพธัญญภา เจ้าของและประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ย่านพระราม 4 เป็นการเสริมจุดแข็งในการดูแลคนไข้เฉพาะทางกลุ่มโรคเบาหวานและต่อไร้ท่อ ที่สอดคล้องกับแนวคิดในการดูแลคนไข้กลุ่มโรคเรื้อรังของโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่มีความพร้อมเงินทุน เทคโนโลยีและเครือข่ายในการขยายไปสู่ชุมชนแต่ขาดประสบการณ์

“การผนึกกำลังกับโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจโรงพยาบาลที่รุนแรง จึงเป็นทางออกที่ลงตัว เสริมจุดแข็งและลดจุดอ่อนของสองฝ่าย”

โดยรวม 2 โรงพยาบาลมีเตียง 300 เตียงจากโรงพยาบาลวิมุต 236 เตียง โรงพยาบาลเทพธารินทร์ กว่า 100 เตียง แต่ปัจจุบันดำเนินการ 80 เตียง

โรงพยาบาลวิมุต เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ที่รักษาโรครุนแรงและซับซ้อน ตามแผนธุรกิจจะเปิดมากกว่า 1แห่ง เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และมีกลุ่มธุรกิจย่อยในรูปแบบ “คอมมูนิตี้เฮลท์ฮับ” กระจายอยู่ตามชุมชน ประกอบด้วย คลินิก เนอสซิ่งโฮม และกายภาพ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือน พ.ค. นี้ คาดสิ้นปีจะมีรายได้ 400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1% ของรายได้รวมพฤกษา ส่วนโรงพยาบาลเทพธารินทร์แต่ละปีจะมีรายได้ 600 ล้านบาท ผลกำไร 4-5%

ใน 3-5 ปีจากนี้ กลุ่มธุรกิจสุขภาพจะทำรายได้ 5% ของรายได้รวมพฤกษา พร้อมแผนขยายโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างน้อย 2-3 แห่ง มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจสุขภาพ หรือเฮลท์แคร์ 10-20% จากรายได้รวม ปัจจุบันมีโรงพยาบาล 2 แห่ง และโรงพยาบาลแห่งที่ 3 มีแผนลงทุนสร้างเอง แต่ระหว่างนี้รูปแบบการกระจายตัว หรือขยายการเติบโตร่วมกับ “พันธมิตร” หากมีความพร้อมในทำเลและวิชั่นที่ตรงกัน ระหว่างผู้ถือหุ้นและฝ่ายบริหาร ในรูปแบบของการร่วมทุน

“การเข้ามาทำธุรกิจสุขภาพของพฤกษา สะท้อนว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างเดียวแต่ดูแลในเรื่องสุขภาพ การออกแบบที่อยู่อาศัยให้เป็นยูนิเวอร์แซลดีไซน์สำหรับทุกเพศ ทุกวัย รองรับกับการบริการ สุขภาพ ในรูปแบบของหน่วยบริการ ขนาดเล็กไปอยู่ในโครงการ ชุมชนเป็น เมดิคัลเซ็นเตอร์ มีซีเนียร์แคร์ หรืออยู่ค้างเป็นระยะเหมือนอพาร์ทเม้นท์ ฝากดูแลในรูปแบบของเนอสซิ่งโฮม รับสังคมสูงวัยในเมืองไทย”

ขณะเดียวกันมุ่งสร้าง Economies of Scale ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพแบบครบวงจร เช่น ผลิตภัณฑ์สุขภาพ การร่วมทุนกับพันธมิตรโรงพยาบาล การเป็นเจ้าของบริษัททำการตรวจวิเคราะห์ ฯลฯ เพื่อบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ