ร.ฟ.ท.ประมูลเชิงพาณิชย์สถานีบางซื่อ

ร.ฟ.ท.ประมูลเชิงพาณิชย์สถานีบางซื่อ

ร.ฟ.ท.เตรียมประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ พ.ค.นี้ หลังเขย่าสัดส่วนร้านค้าใหม่ เพิ่มสูงสุดถึง 30% ของพื้นที่ทั้งหมด 4.6 แสนตารางเมตร หวังเพิ่มรายได้หนุนองค์กร ลั่นต้องการเอกชนมีศักยภาพ ประสบการณ์บริหารห้างสรรพสินค้า

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ภายในเดือน พ.ค.นี้ ร.ฟ.ท. คาดว่าจะเริ่มขั้นตอนเปิดประมูลจัดหาเอกชนรับสิทธิบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ เพื่อเร่งรัดให้ดำเนินการทยอยเปิดร้านค้าภายในสถานีดังกล่าวทันต่อการเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย.2564

 

“ตอนนี้เราเตรียมจ้างที่ปรึกษาเข้ามาช่วยวิเคราะห์จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ว่ารูปแบบใดจึงจะเหมาะสม สร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯ มากที่สุด เช่น ให้สิทธิเอกชนในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้สิทธิเอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์และโฆษณาภายในสถานี หรือให้สิทธิเชิงพาณิชย์ โฆษณาภายในและภายนอกสถานี”

 

อย่างไรก็ดี ร.ฟ.ท.คาดว่าจะสามารถจ้างที่ปรึกษาได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ เร่งรัดทำแผนแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อเริ่มกระบวนการเปิดประมูลในเดือน พ.ค.2564 โดยใช้รูปแบบการให้เช่าพื้นที่ ตามระเบียบของ ร.ฟ.ท. ไม่ใช่การเปิดให้เอกชนร่วมทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) เพราะเป็นการใช้กฎหมายใหม่ ทำให้ ร.ฟ.ท.สามารถจัดจ้างเอกชนได้โดยไม่ต้องเปิดพีพีพีเหมือนที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความคล่องตัว

 

สำหรับการจัดหาเอกชนบริหารพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ร.ฟ.ท.มีเป้าหมายต้องการเอกชนที่มีประสบการณ์บริหารห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เพื่อให้สถานีกลางบางซื่อไม่เป็นเพียงสถานีเพื่อการเดินทาง แต่เป็นเสมือนห้างสรรพสินค้าที่สามารถเกิดรายได้หมุนเวียน และเป็นรายได้เข้าสู่องค์กร ไม่ทำให้สถานีกลางบางซื่อเป็นภาระของ ร.ฟ.ท. เพราะสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้

 

นายนิรุฒ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เข้ามาช่วยวิเคราะห์รูปแบบการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เนื่องจาก ทอท.มีประสบการณ์ในการคัดเลือกเอกชนพัฒนาพื้นที่ภายในท่าอากาศยานหลายแห่งของประเทศมาแล้ว และพบว่าสามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนให้กับ ทอท.อย่างเหมาะสม

 

“เราได้รับความช่วยเหลือจากทาง ทอท.เข้ามาช่วยวางโมเดลการจัดหาเอกชน แต่การทำร่างสัญญาจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยจัดทำ ซึ่งเราก็ต้องหาที่ปรึกษามาช่วยวิเคราะห์ ซึ่งเป้าหมายแน่ๆ ในตอนนี้เราต้องการคนที่มีมืออาชีพในการบริหารพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ผลักดันให้สถานีแห่งนี้เป็นสถานีที่คึกคักมีการใช้งาน และปัจจุบันการรถไฟฯ ได้เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์จากแผนเดิม 5% เป็น 20 -30% เพื่อให้เพียงพอต่อการหนุนรายได้ และสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ

 

สำหรับสถานีกลางบางซื่อ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 464,362 ตารางเมตร โดยสถานีจะเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สถานีบางซื่อ ภายในสถานีกลางบางซื่อยังมีที่จอดรถยนต์รวม 1,700 คัน มี 4 ชานชาลา สำหรับรถไฟชานเมือง 8 ชานชาลา รถไฟทางไกล 10 ชานชาลา รองรับรถไฟความเร็วสูง และ 2 ชานชาลา สำหรับรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงก์

 

ส่วนการทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดงชานเมืองนั้น ในวันที่ 26 มี.ค.จะเริ่มทดลองเดินรถเสมือนจริง แต่ไม่ได้เดินตลอดทั้งวัน และจะเลือกประชาชนบางกลุ่มเท่านั้น และช่วง 28 ก.ค. 2564 จึงจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้บริการ โดยในเดือน พ.ย.นี้ จะเปิดให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบโดยเก็บค่าโดยสาร

 

นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้ต่อสัญญาเช่าที่ดิน และทรัพย์สิน แก่ บริษัท โกลเด้นแอสเซ็ท จำกัด ผู้บริษัท โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ อีก 30 ปี จากเดิมที่จะหมดสัญญาวันที่ 17 ส.ค. 64 โดยการรถไฟจะได้ผลตอบแทนรวมมูลค่า 1,620 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะต้องใช้เงินลงทุน 370 ล้านบาท ทำการปรับปรุงและซ่อมแซมโรงแรมให้ รฟท. ด้วย

 

ด้านการจัดตั้งบริษัทลูก บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด หรือ บริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ปัจจุบันอยู่ขั้นตอนการสรรหากรรมการ และจัดทำข้อบังคับบริษัท คาดว่าอีก 2 เดือนจะสามารถจัดตั้งได้ โดยระหว่างนี้ ร.ฟ.ท.ได้จัดทำแผนการส่งมอบงานให้ เอสอาร์ที แอสเสท ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียดของสัญญาเช่าที่ดินระหว่างเอกชนและ ร.ฟ.ท. รวมไปถึงที่ดินบุกรุก และที่ดินที่มีคดีความ