‘ใบเสร็จเช็คบิล’ สัญญาณเขย่า‘2 รมต.’ ปชป.

‘ใบเสร็จเช็คบิล’ สัญญาณเขย่า‘2 รมต.’ ปชป.

“แผลใหญ่” ของ2รัฐมนตรีบวกกับคดีความที่จะตามมา ไม่แน่ว่าการจัดโผ “ครม.ประยุทธ์ 2/3” รอบนี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาทบทวนสิ่งที่เคยลั่นวาจาไว้ ก็ย่อมเป็นไปได้

ควันหลงจาก “ศึกซัอกฟอก” ชอตต่อไปที่ต้องจับตาคือ การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่เวลานี้เริ่มปรากฏสัญญาณของบรรดาพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้  

จริงอยู่ที่ แม้ทั้ง “10 รัฐมนตรี” จะผ่านพ้นเส้นอันตราย จนได้รับเสียง “ไว้วางใจ” จากสภาผู้แทนราษฎร แต่หากไล่ดูผลคะแนนที่ออกมาทีละคน กลับพบว่าผลคะแนนของแต่ละคนไม่เท่ากัน ยิ่งไปกว่านั้นมีรัฐมนตรีบางคนอยู่ในอาการที่เรียกว่า “โคม่า” อีกด้วย

โดยเฉพาะ “รองจุรินทร์” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์  ที่ได้คะแนน “ไว้วางใจ” จากสภาฯ เพียง 268 เสียง

แม้ผลคะแนนที่ออกมา “รองจุรินทร์” จะไม่ได้อยู่ในลำดับที่บ๊วยสุด แต่ด้วยดีกรี “รองนายกลำดับที่ 4” หรือ รหัสเรียกขานว่า “สร.5” แห่งทำเนียบรัฐบาลแล้ว การรั้ง 3 อันดับสุดท้าย ต่อจาก สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน (คะแนนไว้วางใจ 263 คะแนน)และ ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (คะแนนไว้วางใจ 258 คะแนน) ถือเป็นเรื่องที่เสียเครดิตของการเป็น สร.5 อยู่ไม่น้อย 

161408976353

“ปฐมเหตุ” ของเรื่องนี้อยู่ที่ประเด็น “ทุจริตถุงมือยาง” ซึ่งถูกฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยหยิบยกมาเป็นประเด็น “ขยายแผลใหญ่” กลางสภา แถมยังมี “เสียงลือ” เล็ดลอดออกมาจากทางฝั่งเพื่อไทย ตั้งแต่วันแรกๆ ของการอภิปรายว่า ทั้งประเด็นอภิปราย ข้อมูลเอกสาร หลักฐานที่นำมาอภิปราย ส่วนหนึ่งมาจากการ“ชี้เป้า” มาจาก “คนใน” รัฐบาล เพื่อพุ่งตรงไปที่ตัวจุรินทร์อย่างเต็มๆ

จึงไม่แปลกที่การวางเกมของพรรคเพื่อไทย จะส่งระดับแกนนำพรรคอย่าง “ประเสริฐ จันทรวงทอง” เลขาธิการพรรค เป็นผู้อภิปราย  ยิงตรงไปไปที่ “แผลใหญ่” ด้วยคลิปเสียงเด็ด ที่อ้างว่าเป็นอินไซด์จากลงประชุมบอร์ดองค์การคลังสินค้า(อคส.) โดยบทสนทนาของบุคคลใกล้ชิดรัฐมนตรีจุรินทร์ ระบุเนื้อหาว่า “เป็นเรื่องลับ รอรัฐมนตรีมากดเดิน”

ขยี้ซ้ำ ด้วยข้อมูลจากคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พาณิชย์ สภาผู้แทนราษฎร อ้างคำพูดของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง อคส.ที่่ซัดทอด ผ่าน กมธ.ว่า  “ไม่ได้ทำคนเดียว มีผู้ประสานงานและประธานบอร์ด อคส. ที่เป็นคนสนิทนายจุรินทร์ทราบเรื่องเป็นอย่างดี” 

นอกจากนี้ ยังมี “ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์” อีกว่า พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เตรียมส่งหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันในทำนองที่ว่า “จัดซื้อถุงมือยางตามนโยบายของผู้บริหาร เมื่อเจ้านายให้นโยบายมาอย่างไร ลูกน้องก็ต้องปฏิบัติตาม”

ดังนั้นจาก “คดีทุจริต” ที่ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ตั้งอนุกรรมการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้อง บวกคำชี้แจงของ “รองจุรินทร์” ซึ่งถูกมองว่ายังไม่เคลียร์ โดยเฉพาะคำพูดที่อ้างว่า ทำหน้าที่เป็นเพียง“บุรุษไปรษณีย์” ไม่มีส่วนรู้เห็น ทั้งที่เป็นถึงระดับรองนายกฯที่รับผิดชอบ แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่งเสนาบดีกระทรวง

จึงยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ฝ่ายค้านได้ “ขยายแผลใหญ่” จนไปเข้าทางพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)รวมถึง “บิ๊กรัฐบาล” จึงไม่ต่างอะไรกับ “ใบเสร็จเช็คบิล” ที่อาจมีผลไปถึงการปรับ ครม.ที่กำลังจะมีขึ้น

โดยเฉพาะเก้าอี้ “รมว.พาณิชย์” ซึ่งเป็นที่หมายปองของบรรดากลุ่มก๊วนภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน 

161408980161

ยังไม่นับ “พายุลูกใหญ่” ภายในพรรคประชาธิปัตย์ หลังจาก 3 ส.ส.ของพรรค ประกอบด้วย “พนิต วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ “อภิชัย เตชะอุบล”ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี ที่ “โหวตโน” ให้หัวหน้าพรรคตัวเอง

ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะของ “หัวหน้าจุรินทร์” ที่เวลานี้เผชิญศึกรุมเร้ารอบด้าน ชนิดคุมไม่อยู่ อย่างชัดเจน

จึงไม่แปลกที่ซักฟอกรอบนี้ ผลคะแนนของ “รองจุรินทร์” จะถูกจัดอยู่ท้ายตาราง ใน 3 อันดับสุดท้าย แถมยังติดโผรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่นสอบจริยธรรมร้ายแรงอีกด้วย

ไม่ต่างไปจาก “มท.2”อย่าง “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ที่งานนี้ เจอหางเลขจากพิษ “ใบเสร็จเช็คบิล”  โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล  ที่ “ขยายแผลใหญ่” จากปมหาประโยชน์จากเขตพัฒนาพิเศษจะนะ เพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง และยังเป็นรายชื่อแรกที่ถูกเปิดโดยพรรคก้าวไกลในการยื่นต่อป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรงนับจากนี้อีกด้วย

ฉะนั้นจาก“แผลใหญ่” ที่เกิดขึ้น บวกกับคดีความของทั้ง 2 รัฐมนตรีที่จะตามมา แม้ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งจัดโผ ครม. ประยุทธ์2/2 “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเคยบอกว่า “ไม่แตะต้องโควตาพรรคร่วม” 

แต่ด้วยปัจจัยและเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป การจัดโผ “ครม.ประยุทธ์ 2/3” รอบนี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพิจารณาทบทวนสิ่งที่เคยลั่นวาจาไว้ ก็ย่อมเป็นไปได้