‘อาลัวกุหลาบพาสเทล’ งาน ‘ศิลปะกินได้’ แบรนด์ ‘หวานพนม’ ฝีมือ ‘เดียว วรตั้งตระกูล’

ขนมอาลัว เป็น “ขนมหวานไทย” ที่มีต้นกำเนิดจากโปรตุเกส โดย “ท้าวทองกีบม้า” หรือ “เลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์” เป็นผู้นำมาเผยแพร่ เป็นขนมที่ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็งๆ ด้านในเป็นแป้งหนืด มักมีกลิ่นหอมหวาน สวยงามหลากหลายสีสัน ชื่อของขนมชนิดนี้มีความหมายว่า “เสน่ห์ดึงดูดใจ”  วันนี้ถูกนำมาประยุกต์ให้มีรูปร่างหน้าตา ดึงดูดใจยิ่งขึ้น ในแบบฉบับของ “อาลัวกุหลาบพาสเทล” ถือว่าเป็นงาน “ศิลปะกินได้”

สองพี่น้อง "หวานพนม" ยุ้ย-วิรายุ และ เดียว วรตั้งตระกูล 

วันนี้ “เดียว วรตั้งตระกูล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่อง One 31 ฝึกทำ “อาลัวกุหลาบพาสเทล” สอนโดยพี่สาว ยุ้ย-วิรายุ วรตั้งตระกูล เรียกได้ว่า ผลงานชิ้นแรกกว่าจะประสบความสำเร็จ ต้องอาศัยความตั้งใจอย่างแรงกล้า หลังจากนั้น “อาลัวกุหลาบ” ดอกที่ 2-5 ทำได้สบายมาก ถือว่าเป็นนักเรียนที่เรียนเร็ว ได้คะแนนเต็ม 10 ไม่โดนหักเลยก็ว่าได้

"อาลัวกุหลาบพาสเทล" ฝีมือ "เดียว วรตั้งตระกูล"

 

พี่สาวสอน น้องชายเรียนอย่างจริงจังมาก 

“ความจริง อาลัวกุหลาบ ไม่ใช่เพิ่งมี แต่เราสร้างจุดขายให้เป็น  อาลัวกุหลาบพาสเทล แล้วตั้งชื่อแบรนด์ว่า หวานพนม เพราะคำว่า หวาน บ่งบอกว่าเป็น ขนมหวาน อยู่แล้ว ส่วน พนม ก็มาจากจังหวัดนครพนม อนาคตจะพัฒนาเป็นของฝาก สามารถเอาไปฝากญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง คนที่เรารัก ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดจะทำธุรกิจนี้เลย พอดีพี่สาวเริ่มต้นความคิดว่า อยากจะทำงานที่เป็นนายของตัวเอง (ยุ้ย-วิรายุ วรตั้งตระกูล) ก็เลยไปเรียนทำขนมอาลัว คนชิมแล้วชอบ เพราะอาลัวทั่วไปจะรสหวานจัด สีจะสดมาก รูปลักษณ์ก็จะเป็นตุ้มๆ พอทำเป็น อาลัวกุหลาบ ใช้สี พาสเทล เน้นความหวานน้อย ก็เลยเป็นจุดขายที่น่าสนใจ”

เดียว วรตั้งตระกูล กล่าวถึง “อาลัวกุหลาบพาสเทล” แบรนด์ “หวานพนม” ว่า เริ่มจากคนชิมแล้วอร่อย ก็เลยคิดพัฒนาสินค้าให้กับพี่สาวโดยช่วย คิดสโลแกน ตั้งชื่อ และทำการตลาด โดยเริ่มขายให้กับกลุ่มเพื่อนๆ  โพสในเฟสบุ๊ค มียอดสั่งซื้อเข้ามามากมาย

“รูปร่างหน้าตาของเขาสวยอยู่แล้ว คนก็เลยสนใจ พอได้ชิมแล้วอร่อย ก็เลยบอกต่อๆกัน มีพรีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อยๆ ก็เลยคิดจะทำออกมาเป็นเรื่องเป็นราว  เริ่มจากทำเดือนละ 3 รอบ เราก็ทำทุกๆสิบวัน ส่งตามออร์เดอร์ แล้วก็ส่งไปทั่วประเทศ ก็เลยกลายเป็นธุรกิจเล็กๆที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้ก็คิดว่าจะไปซื้อตึกที่จังหวัดนครพนม ทำเป็นร้านของฝาก  แล้วขายขนมอื่นๆด้วย ก็น่าจะพัฒนาธุรกิจนี้ให้โตขึ้นเรื่อยๆได้”

เป็นธุรกิจที่ไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากพิษ “โควิด-19” ทว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ธุรกิจด้านอาหารไม่ถูกกระทบ เขาเริ่มทำธุรกิจ “ขนมอาลัว” เมื่อเดือนธันวาคม 2562 พอช่วงเดือนมกราคม 2563 ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก ในเดือนมีนาคม 2563 “โควิด-19”  ระบาดหนัก ยังแอบกังวลอยู่ลึกๆ แต่ธุรกิจกลับไปได้ดีกว่าเดิม

ทำอาลัวกุหลาบแล้วต้องนำไปเข้าเตาอบ 

“วันนี้มาลองทำอาลัวกุหลาบพาสเทล ครั้งแรก ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน แต่ก็รู้สึกว่าถ้าหากเราเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ แล้วเราทำเป็นก็น่าจะเข้าใจ และสามารถพัฒนาสินค้าต่อไปได้ดี  พอได้ลงมือทำวันนี้เข้าใจจริงๆเลยว่า งานที่เราทำเหมือนเป็นงานศิลปะ ไม่ใช่แค่ขนมที่ทำตามสูตร แล้วใส่พิมพ์ปั๊มๆๆออกมา แต่ขนมที่เราทำนี้ เป็นงานฝีมือ กว่าจะปั้นออกมาให้เป็นดอกกุหลาบสวยๆ ต้องใช้ความประณีต ความตั้งใจ ผมเคยให้คำนิยามเอาไว้ว่า นี่ ไม่ใช่แค่ขนม มันคืองาน ศิลปะกินได้  คนทำต้องมีสมาธิ ต้องมีจินตนาการ เพราะการที่จะบีบส่วนผสมให้ออกมาเป็นดอกกุหลาบสวยๆ ต้องบีบให้โค้ง มีการม้วนดอก มันเป็นจินตนาการล้วนๆ”

พี่สาวตั้งใจสอน น้องชายก็ตั้งใจเรียน 

เดียว วรตั้งตระกูล กล่าวว่า มีหลายคนซื้อขนม “อาลัวกุหลาบพาสเทล” ไปแล้วไม่กล้ากินเพราะสวยเกินไป จึงเป็นที่มาของ “หวานพนม” ที่ก้าวข้ามจากของกินธรรมดากลายเป็น “ของฝาก” หรือ “ของแทนใจ” ได้ จากนั้นก็พัฒนาเรื่องของแพคเกจจิ้งให้มีความหลากหลายมากขึ้น

นอกจากการบีบกลีบดอกที่ยากแล้ว เทคนิคการบีบกลีบเลี้ยงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย 

“ลูกค้าส่วนใหญ่บอกว่า ขนมสวย นึกถึงการตักบาตร อยากเอาไปทำบุญ เราก็เลยทำแยกออกมาขายเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือไม่ก็ทำเป็นเซต 4 ดอก ทำเป็นเซตตามออร์เดอร์พิเศษเพิ่มความหลากหลาย หรือบางทีเอาไปเป็นของชำร่วยงานแต่งก็เหมาะ มีเจ้าของร้านกาแฟซื้อไปเสิร์ฟกับเชตมัจฉะร้อนก็โอเคเลยนะ”

พี่สาวสอนว่ากลีบเลี้ยงต้องจิ้มลงไปที่โคน ลากเส้นโดยขยับเส้นไปมาแล้วจิ้มที่ปลายก่อนดึงมือออก 

“เดียว วรตั้งตระกูล” กล่าวถึงงานด้านผู้บริหารช่อง One 31 ว่าไปได้ดี ช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมาได้เรียนรู้การสร้างสมดุลย์เรื่องรายได้และรายจ่าย นั่นคือการบริหารต้นทุน นับว่าประสบความสำเร็จและผ่านไปได้ด้วยดี ทำให้เรียนรู้ว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ เพียงแต่เราต้องตั้งสติและบริหารจัดการอย่างรอบคอบ ให้สอดคล้องกับสภาวะ

วิกฤตโควิด – 19 ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนทั้งโลกได้เรียนรู้มากมาย ทำให้ประมาทกับชีวิตน้อยลง เตรียมแผนสำรองไว้ให้กับชีวิต เขาเชื่อในความเป็นมนุษย์ว่า ทุกคนสามารถเอาตัวรอดได้ทุกวิกฤต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ และผู้รอดก็คือผู้ชนะ ร้านขายของฝาก ฟาร์มสเตย์ และร้านกาแฟเล็กๆ นี่ก็คืออีกหนึ่งความฝัน

สนใจ "อาลัวกุหลาบพาสเทล" ของหวานพนม ติดต่อได้ที่ 061-824-4165 เฟสบุ๊ค : หวานพนม