รัฐสภา 395 เสียง เห็นด้วยให้อำนาจ 'ส.ส.ร.' 200 คนจากเลือกตั้ง ทำ 'รัฐธรรมนูญ​' ฉบับใหม่

รัฐสภา 395 เสียง เห็นด้วยให้อำนาจ 'ส.ส.ร.' 200 คนจากเลือกตั้ง ทำ 'รัฐธรรมนูญ​' ฉบับใหม่

ที่ประชุมรัฐสภา เห็นด้วยให้มีส.ส.ร.เลือกตั้ง 200 คน มีหน้าที่ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ประชุมรัฐสภา พิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ... ซึ่งยังอยู่ระหว่างพิจารณา ประเด็นที่มาของ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งกรรมาธิการพิจารณาฯ ได้ปรับแก้ไข ให้มาจากการเลือกตั้ง 200 คน ซึ่งต่างจากร่างเดิมที่รับหลักการ กำหนดให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในแต่ละจังหวัด 150 คน, สมาชิกรัฐสภาคัดเลือก 20 คน , ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยคัดเลือก 20 คนและคัดเลือกจากนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาจำนวน 10 คน

ทั้งนี้ในการอภิปรายของ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ฐานะกมธ.ฯ เสียงข้างน้อย อภิปรายให้กลับไปใช้ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับที่รับหลักการ โดยให้เหตุผลว่า อ้างในการประชุมรัฐสภาก่อนรับหลักการ และหลายแห่งในวาระแรกรวมถึงวันนี้ อยากเห็นนักเรียน นิสิต เดินขบวนอยากร่างรัฐธรรมนูยใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งส.ส.ร.  200 คนจะมาได้อย่างไร มาไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนักเลือกตั้ง ใช้เขตจังหวัด หรือแบ่งเขตเลือกตั้ง คนที่มาจากการเลือกตั้งต้องมีฐานคะแนนเสียง ทั้งนี้ ประเทศไทย ผ่านการมี ส.ส.ร. ทั้งหมด 4 ครั้ง พบว่าไม่เคยมีชุดไหนที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งหมดมาจากการแต่งตั้งทั้งหมด

161418609492

“เนื้อหาที่ รัฐบาลออกแบบ แล้วตอนนี้ลืมเด็กพวกนี้ มาชุมนุมหน้าสภาฯ เรียกร้องรัฐธรรมนูญ หากให้มาจากเลือกตั้งผมนนึกออกว่าทั้ง 200 คนที่มาไม่ใช่นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่มาประท้วง ผมมองว่า ส.ส.ร. ไม่ว่าที่มาจากไหน สามารถเขียนรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยได้ ดังนั้นเป็นคำโกหกหรือไม่ที่บอกว่าอยากได้นักเรียน นิสิต นักศึกษาร่วมร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นต้องกลับไปร่างเดิม” นายสมชาย อภิปราย

ทั้งนี้มีกมธ. เสียงข้างมาก ได้อภิปรายแสดงเหตุผล เช่น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะกมธ. ที่เห็นด้วยกับการมีส.ส.ร.เลือกตั้ง พร้อมเสนอให้ใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง , น.อ.อนุดิษฐ์​ นาครทรรพ ส.ส.กทม.​พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.ฯ ที่ยืนยันต่อการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เพื่อให้เกิดตัวแทนของประชาชนที่เข้ามายกร่างรัฐธรรมนูญ 

และเมื่อสมาชิกรัฐสภาอภิปรายแสดงเหตุผลแล้ว ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฎว่า เสียงข้างมาก 395 เสียง เห็นด้วยกับกมธ.แก้ไข ไม่เห็นด้วย 13 เสียง งดออกเสียง 165 เสียง   ต่อจากนั้นได้พิจารณาเนื้อหาคุณสมบัติของส.ส.ร. ซึ่งกมธ. แก้ไขถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระสำคัญเพียงเล็กน้อย ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติ และเห็นด้วย ด้วยเสียง 359เสียง ไม่เห็นด้วย 45เสียง งดออกเสียง 158 เสียง

และเมื่อเวลา 23.10 น. นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ฐานะประธานที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม และขอให้กลับมาพิจารณาต่อในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น.​โดยจะต่อการพิจารณามาตราว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ร.